**โพสต์เมื่อ 19 พ. ย. 2024 เวลา 13:30 น.
UTC** **เจ** **อ้างอิง** Microsoft ได้เปิดตัว Azure AI Foundry แพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน AI แบบ "รวมเป็นหนึ่ง" Azure AI Foundry ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรจัดการเครื่องมือ AI ของพวกเขา โดยในบล็อกโพสต์ของ Microsoft ได้กล่าวถึงเป้าหมายในการลดช่องว่างระหว่างเทคโนโลยี AI ขั้นสูงและการใช้ในธุรกิจจริง ให้องค์กรสามารถใช้ AI ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ
ไมโครซอฟต์เปิดตัว Azure AI Foundry สำหรับการจัดการ AI ที่ดียิ่งขึ้น
ในโลกของการตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว วิดีโอที่สร้างด้วยปัญญาประดิษฐ์กำลังปฏิวัติวิธีที่แบรนด์มีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง ตอนนี้บริษัทสามารถผลิตวิดีโอที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งตรงกับความชื่นชอบและพฤติกรรมเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ในขณะที่การตลาดแบบส่วนบุคคลเคยเน้นการแบ่งกลุ่มผู้ชมตามหมวดหมู่ทั่วไป เช่น กลุ่มประชากร หรืองจากประวัติการซื้อสินค้า แต่แนวทางนี้ถูกพัฒนาขึ้นด้วยการผลิตวิดีโอแบบเรียลไทม์ที่ปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจเฉพาะของแต่ละคน วิดีโอเหล่านี้ทำงานโดยการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้อย่างกว้างขวาง เช่น รูปแบบการท่องเว็บ การซื้อสินค้าครั้งก่อน กิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย และร่องรอยดิจิทัลอื่นๆ เพื่อสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและเหมาะสมเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาอาจส่งวิดีโอแสดงสินค้าที่ตรงกับกีฬาที่ผู้บริโภคชื่นชอบ สีที่ชอบ และการค้นหาล่าสุด ซึ่งสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงส่วนตัวซึ่งบ่อยครั้งหายไปในโฆษณาทั่วไป งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าวิดีโอที่สร้างด้วย AI แบบส่วนบุคคลมีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมาก เพิ่มการมีส่วนร่วม การจดจำ และความน่าจะเป็นในการทำกิจกรรมที่ต้องการ เช่น การซื้อสินค้า หรือการลงทะเบียน ด้วยการส่งข้อความที่ตรงเวลาและปรับแต่งตามแต่ละบุคคล แบรนด์สามารถสร้างสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ได้ลึกซึ้งขึ้น เสริมความภักดี และสนับสนุนให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ นอกจากนี้ เนื้อหาวิดีโอที่สร้างด้วย AI ยังให้ความสามารถในการปรับขนาดและความยืดหยุ่นที่เหนือกว่าวิธีการแบบดั้งเดิม การสร้างวิดีโอแบบเจาะจงรายบุคคลด้วยมือจะใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ด้วยระบบอัตโนมัติผ่าน AI ทำให้สามารถผลิตวิดีโอส่วนตัวจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถแข่งขันกับบริษัทใหญ่ด้วยการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างสร้างสรรค์ เทคโนโลยีเบื้องหลังวิดีโอเหล่านี้ยังคงพัฒนาต่อเนื่อง โดยรวมความสามารถด้านประมวลผลภาษาธรรมชาติ วิชันคอมพิวเตอร์ และการเรียนรู้เชิงลึก เพื่อให้ฟีเจอร์ขั้นสูงเช่น การเล่าเรื่องแบบไดนามิก การสาธิตสินค้าปรับแต่ง และการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ตามการโต้ตอบของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ร้านค้าออนไลน์อาจนำเสนอวิดีโอสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามตำแหน่งที่อยู่ หรือสภาพอากาศในขณะนั้น เพื่อเสริมความเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาประยุกต์ใช้ในตลาดแบบส่วนบุคคลยังมีข้อกังวลด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้ข้อมูล การขอความยินยอมจากผู้บริโภค และการปฏิบัติที่รับผิดชอบต่อ AI เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างความไว้วางใจ รักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า และให้เป็นไปตามกฎระเบียบ ในอนาคต วิดีโอที่สร้างด้วย AI คาดว่าจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การตลาดแบบหลายช่องทาง ซึ่งอาจบูรณาการกับเทคโนโลยีเสมือนจริงและผู้ช่วยอัจฉริยะ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ล้ำลึกและมีส่วนร่วมมากขึ้น เมื่อเทคโนโลยี AI พัฒนาขึ้น โอกาสในการสร้างเนื้อหาวิดีโอที่สอดคล้องและสร้างผลกระทบสูงก็จะขยายตัวออกไป โดยสรุป วิดีโอที่สร้างด้วย AI เป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในด้านการตลาดแบบส่วนบุคคล การใช้ AI เพื่อส่งมอบเนื้อหาวิดีโอที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลช่วยให้แบรนด์สร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง เพิ่มการมีส่วนร่วม และเสริมอัตราการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังยกระดับประสบการณ์ลูกค้าอีกด้วย ทำให้เป็นตัวชี้วัดใหม่ของความสำเร็จด้านการตลาดในยุคดิจิทัล
บริษัท Alta ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีจากอิสราเอล กำลังพัฒนาความก้าวหน้าที่โดดเด่นในด้านปัญญาประดิษฐ์ผ่านแพลตฟอร์มเชิงนวัตกรรมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับทีมรายได้ในธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ด้วยความมุ่งเน้นในเทคโนโลยี AI ยุคใหม่ Alta ตั้งเป้าปฏิวัติวิธีการที่องค์กร B2B ขับเคลื่อนยอดขายและสร้างรายได้โดยการให้โซลูชันที่เพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และผลการดำเนินธุรกิจโดยรวม บริษัทก่อตั้งขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ในการฝัง AI เข้าไปในกระบวนการหลักของทีมขายและการตลาด Alta ได้สร้างแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม เพื่อรับมือกับความท้าทายเฉพาะด้านของธุรกิจที่ต้องแข่งขันในตลาดที่มีความต้องการสูง แพลตฟอร์มนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดโดยให้ข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูล การวิเคราะห์คาดการณ์ล่วงหน้า และการทำงานอัตโนมัติ ช่วยให้ทีมรายได้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเป้าหมายและลูกค้าปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความเชี่ยวชาญของ Alta ในการประยุกต์ใช้ AI สำหรับการขาย B2B ได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยมีการนำเสนออย่างโดดเด่นในสื่อต่าง ๆ เช่น The Wall Street Journal, Business Insider และ Fortune ซึ่งทำให้ Alta เป็นผู้นำด้าน AI ที่สร้างมาตรฐานใหม่ในการเร่งการเติบโตของธุรกิจด้วย AI แพลตฟอร์มของ Alta มีฟังก์ชันสำคัญหลายอย่างที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาความยากลำบากในวงจรรายได้ของ B2B โดยใช้การเรียนรู้ด้วยเครื่อง (machine learning) วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเพื่อหาโอกาสดีในการขาย ทำนายแนวโน้มยอดขาย และปรับแต่งกลยุทธ์การเข้าหาลูกค้าอัตโนมัติ ความสามารถนี้ช่วยให้ทีมรายได้สามารถให้ความสำคัญกับโอกาสสูงสุด ลดงานที่ต้องทำด้วยตนเอง และปรับตัวได้อย่างรวดเร็วต่อแนวโน้มตลาดที่เปลี่ยนแปลง นอกเหนือจากเทคโนโลยีแล้ว Alta ยังโดดเด่นด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า โดยทำงานร่วมกับธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม บริษัทปรับแต่งแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและผลตอบแทนการลงทุนสูงสุด วิธีการนี้ทำให้ Alta ได้รับชื่อเสียงในฐานะที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพรายได้ด้วย AI ในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับความสำเร็จทางธุรกิจ โซลูชันของ Alta จัดเตรียมเครื่องมือให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเปลี่ยนข้อมูลดิบเป็นข้อมูลเชิงกลยุทธ์ ทำให้ทีมรายได้ในธุรกิจต่อธุรกิจสามารถทำงานด้วยความแม่นยำมากขึ้นและมั่นใจมากขึ้น เปิดเส้นทางสู่การเติบโตอย่างต่อเนื่องและความเป็นผู้นำในตลาด ในอนาคต Alta มีแผนขยายฐานการดำเนินงานทั่วโลก โดยพัฒนาต่อเนื่องตามความก้าวหน้าของ AI และมุ่งมั่นนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง บริษัทคาดว่าจะพัฒนาแพลตฟอร์มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) วิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และการบูรณาการข้อมูลแบบเรียลไทม์ มาใช้ ในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพยากรสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจ แพลตฟอร์มของ Alta ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเปลี่ยนข้อมูลดิบเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ได้จริง Alta ส่งเสริมให้ทีมรายได้ของ B2B ทำงานด้วยความแม่นยำและมั่นใจมากขึ้น สร้างเส้นทางสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและเป็นผู้นำตลาด เส้นทางของ Alta ชี้ให้เห็นบทบาทที่สำคัญของ AI ในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการธุรกิจ และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีเมื่อประยุกต์ใช้อย่างรอบคอบและมีกลยุทธ์ ขณะเดียวกัน เมื่อบริษัทได้รับการยอมรับจากสื่อระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับนวัตกรรมและเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ AI เพื่อบรรลุผลทางธุรกิจที่สำคัญ
สำนักงานสื่อสารข้อมูลสภาแห่งรัฐได้ประกาศความก้าวหน้าสำคัญด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์โดยการเปิดตัวอุปกรณ์เทอร์มินัล AI กว่า 100 ตัว รวมถึงโทรศัพท์มือถือ AI คอมพิวเตอร์ AI และแว่นตา AI การเติบโตนี้เป็นการเปิดพื้นที่ใหม่สำคัญในเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่สำคัญ อุปกรณ์เทอร์มินัล AI เหล่านี้ไม่ใช่เพียงอุปกรณ์ทั่วไป แต่เป็นส่วนสำคัญของโครงการกลยุทธ์ "AI Plus" ที่มีเป้าหมายเพื่อให้เทคโนโลยี AI ฝังลึกเข้าสู่หลากหลายอุตสาหกรรม โครงการ "AI Plus" เป็นความพยายามร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลและพันธมิตรทางอุตสาหกรรมเพื่อใช้ศักยภาพของ AI ในการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มที่ ซึ่งส่งเสริมความนวัตกรรมด้าน AI ในสาขาต่าง ๆ เช่น การผลิต สาธารณสุข การศึกษา และการคมนาคม เพื่อให้การดำเนินงานและบริการมีความฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายในกรอบนี้ เทอร์มินัล AI เป็นตัวอย่างของการบรรจบกันของ AI เข้ากับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้และขยายขีดความสามารถของอุปกรณ์แบบดั้งเดิม โทรศัพท์มือถือ AI เป็นตัวอย่างของอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมอัลกอริทึม AI ขั้นสูงที่พัฒนาการรับรู้ใบหน้า การโต้ตอบด้วยเสียง เนื้อหาส่วนตัว และการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วยความฉลาดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น คอมพิวเตอร์ AI ช่วยเสริมแรงกำลังการประมวลผลและระบบซอฟต์แวร์ สนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลซับซ้อน การอัตโนมัติ และการเรียนรู้ของเครื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการวิจัย การออกแบบ และการดำเนินงานเพื่อเพิ่มผลผลิตและนวัตกรรม แว่นตา AI ผสานด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงและ AI ให้ข้อมูลเสริมแบบเรียลไทม์ ช่วยนำทาง ติดตามสุขภาพ และให้บริการโต้ตอบ ซึ่งมีการใช้งานในหลายด้าน ตั้งแต่การใช้งานส่วนตัว ไปจนถึงสาขาเฉพาะเช่น การแพทย์และการผลิต เพื่อเพิ่มความแม่นยำและการเข้าถึง การพัฒนาเทอร์มินัล AI กว่า 100 ตัวอย่างรวดเร็วนี้เป็นสัญญาณของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การยอมรับในตลาด และความสำเร็จของนโยบายสนับสนุน การจัดสรรเงินทุนวิจัย และความร่วมมือภายในโครงการ "AI Plus" โดยการฝัง AI อย่างกว้างขวาง เป้าหมายของกลยุทธ์นี้คือการสร้างระบบนิเวศที่เข้มแข็งที่สนับสนุนการนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของเทอร์มินัล AI จะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้าง รวมไปถึงการสร้างงานในอุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดแวร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และการวิจัย AI นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาด้วย AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในอุตสาหกรรมดั้งเดิม ส่งเสริมการปรับปรุงเศรษฐกิจให้ทันสมัยและผลผลิตสูงขึ้น ภาพรวม การบูรณาการ AI เข้ากับเทคโนโลยีทั่วโลกสอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ รายงานของสำนักงานสื่อสารข้อมูลสภาแห่งรัฐเน้นย้ำความมุ่งมั่นภายในประเทศต่อด้านนี้ ทำให้ประเทศอยู่ในตำแหน่งผู้นำด้านเทคโนโลยี AI โดยกลยุทธ์นี้คาดว่าจะส่งผลดีในระยะยาว เช่น การส่งเสริมความนวัตกรรม การยกระดับคุณภาพชีวิต และความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล โดยสรุป การเปิดตัวเทอร์มินัล AI กว่า 100 ตัว รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และแว่นตา เป็นเหตุการณ์สำคัญในโครงการ "AI Plus" เทคโนโลยีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการใช้ AI ขั้นสูง และเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง เมื่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ นำ AI เข้ามาประยุกต์ใช้ นวัตกรรมและการปรับปรุงให้ทันสมัยนี้จะนำมาซึ่งการพัฒนาที่สำคัญ สร้างฐานที่มั่นคงสำหรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความเจริญทางเศรษฐกิจในอนาคต
การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้บน LinkedIn ได้เปิดเผยผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อกระบวนการขาย ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่ามีตัวแทนขายถึงร้อยละ 69 ที่ระบุว่า การบูรณาการ AI ช่วยลดระยะเวลาในการปิดการขายลงประมาณหนึ่งสัปดาห์ การลดเวลานี้เป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในสนามแข่งขันด้านการขาย ซึ่งช่วยให้ผู้ขายสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมและเปลี่ยนผู้สนใจให้กลายเป็นลูกค้าได้เร็วขึ้นกว่าการใช้วิธีการแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ การศึกษายังเน้นย้ำว่า AI ไม่เพียงแต่ช่วยเร่งกระบวนการขายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่ระดับการปิดการขายที่สูงขึ้น ผู้ขายที่ใช้เครื่องมือ AI สามารถปิดดีลได้มากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เพิ่มขึ้นตลอดเส้นทางการขาย การปรับปรุงนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความสามารถของ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ทำนายพฤติกรรมลูกค้า และปรับแต่งกลยุทธ์การเข้าถึงอย่างแม่นยำ การใช้งาน AI ในด้านการขายประกอบด้วย การวิเคราะห์เชิงทำนาย การประเมินความสนใจของลูกค้า การสื่อสารแบบเฉพาะบุคคล และการติดตามผลอัตโนมัติ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ทีมขายสามารถระบุผู้ที่มีศักยภาพสูงและปรับแต่งข้อความให้เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการมีส่วนร่วมที่ดีขึ้นและอัตราการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้น ฉะนั้น การนำเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้จึงกลายเป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับปรุงกระบวนการและแซงหน้าคู่แข่ง การศึกษายังเน้นย้ำความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของผู้เชี่ยวชาญด้านการขายในโซลูชัน AI ขณะที่ผู้ขายจำนวนมากได้รับประสบการณ์จริงกับเทคโนโลยีเหล่านี้ ความเชื่อมั่นในความสามารถของ AI เพื่อยกระดับทักษะของพวกเขายังคงเติบโตขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในอุตสาหกรรมการขาย ซึ่ง AI กำลังกลายเป็นส่วนสำคัญในเครื่องมือการขายมากกว่าที่จะเป็นเพียงทรัพยากรเสริม นอกจากการลดระยะเวลาในการขายและเพิ่มอัตราการปิดดีลแล้ว วิธีการขายที่สนับสนุนด้วย AI ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการใช้ AI คาดการณ์ความต้องการของลูกค้าและตอบสนองอย่างรวดเร็ว ผู้ขายสามารถสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและน่าดึงดูดมากขึ้น ซึ่งส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ สร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับบริษัท การศึกษาของ LinkedIn ยังชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการนำ AI มาใช้งาน ซึ่งแม้จะมีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน แต่บางคนยังคงมีปัญหาในการบูรณาการ AI เข้ากับเวิร์กโฟลว์เดิม หรือละเลยการฝึกอบรมที่เพียงพอเพื่อใช้ศักยภาพของ AI อย่างเต็มที่ การเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ผ่านการฝึกอบรมอย่างละเอียดและแพลตฟอร์ม AI ที่ใช้งานง่ายจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องการปลดล็อกประโยชน์สูงสุดของ AI ในด้านการขาย ในอนาคต คาดว่าบทบาทของ AI ในการขายจะขยายตัวมากขึ้น การพัฒนาของแมชชีนเลิร์นนิง การประมวลผลภาษาธรรมชาติ และการวิเคราะห์ข้อมูล จะทำให้ระบบ AI สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่ซับซ้อนและทำงานอัตโนมัติในงานต่าง ๆ ได้มากขึ้น ความก้าวหน้านี้จะช่วยให้ทีมขายสามารถมุ่งเน้นที่กิจกรรมเชิงกลยุทธ์และการสร้างความสัมพันธ์ ในขณะที่ AI ดูแลงานที่ซับซ้อนและเป็นข้อมูลจำนวนมาก โดยสรุป การศึกษาของ LinkedIn ให้หลักฐานชัดเจนว่า AI ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการขายอย่างมากโดยลดระยะเวลาของกระบวนการและเพิ่มอัตราการปิดดีลขึ้น เมื่อเทคโนโลยี AI พัฒนาและผนวกเข้ากับระบบนิเวศการขายอย่างลึกซึ้ง ก็เตรียมที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย สร้างโอกาสใหม่สำหรับประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และการมีส่วนร่วมของลูกค้า บริษัทที่นำ AI มาใช้ในกระบวนการขายจะได้เปรียบในการแข่งขันและบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เหนือกว่าในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงพัฒนาต่อเนื่องและถูกซึมซับเข้าไปในกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลต่างๆ ผลกระทบของมันต่อการปรับแต่งเครื่องมือค้นหา (SEO) ก็ได้รับความสนใจอย่างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาเครื่องมือ AI ใน SEO ที่เพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดคำถามด้านจริยธรรมหลายประเด็นซึ่งนักการตลาดและธุรกิจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ใช้งานอย่างรับผิดชอบและรักษาความเชื่อถือของผู้บริโภค เทคโนโลยี AI ได้เปลี่ยนแปลงวงการ SEO อย่างสิ้นเชิงด้วยการทำให้งานซับซ้อนเป็นอัตโนมัติ ประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล และปรับปรุงเนื้อหาเพื่อให้ได้อันดับที่สูงขึ้นบนหน้าแสดงผลของเครื่องมือค้นหา (SERPs) เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้นักการตลาดสามารถระบุคำสำคัญที่เกี่ยวข้อง ทำนายแนวโน้มการค้นหา ปรับแต่งประสิทธิภาพเว็บไซต์ และปรับประสบการณ์ของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย แม้ว่าข้อดีของการนำ AI เข้ามามีบทบาทใน SEO จะเป็นที่ยอมรับกันอย่างแน่นอน แต่ก็จำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงปัญหาทางจริยธรรมที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าเหล่านี้ ประเด็นด้านจริยธรรมหลักหนึ่งใน SEO ที่ขับเคลื่อนด้วย AI คือ ความเสี่ยงของการใช้กลยุทธ์ที่หลอกลวง ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ เช่น การใช้ AI เพียงเพื่อสร้างเนื้อหาเพื่อหลอกล่ออัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหาโดยไม่ให้คุณค่าแท้จริงแก่ผู้ใช้ ซึ่งอาจทำลายความเชื่อมั่นและลดคุณภาพของข้อมูลออนไลน์โดยทั่วไป แนวทางเหล่านี้อาจนำไปสู่การถูกลงโทษจากเครื่องมือค้นหาและทำลายชื่อเสียงของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ความโปร่งใสเป็นอีกหนึ่งด้านสำคัญที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญเมื่อใช้ AI ในการทำ SEO นักการตลาดต้องเปิดใจกับการใช้งานเครื่องมือ AI ในการสร้างและปรับแต่งเนื้อหา การสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทของ AI ช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างองค์กรและกลุ่มเป้าหมาย โดยทำให้ผู้บริโภคไม่เข้าใจผิดว่าเนื้อหาเป็นอัตโนมัติโดยไม่มีการเปิดเผย นอกจากนี้ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลก็เป็นประเด็นด้านจริยธรรมที่สำคัญ เครื่องมือ AI ที่ใช้ใน SEO จำนวนมากขึ้นอยู่กับการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้เพื่อปรับแต่งเนื้อหาและเป้าหมาย นักการตลาดต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ด้วยการขอความยินยอมอย่างถูกต้องและจัดการข้อมูลส่วนตัวอย่างปลอดภัย การละเมิดข้อนี้อาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายและความเสียหายต่อชื่อเสียงของแบรนด์ การรับรองความเป็นธรรมในการใช้งาน AI ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน อัลกอริทึมควรถูกออกแบบและตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันอคติที่อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างไม่เป็นธรรม หรือทำให้ผลลัพธ์การค้นหาเสียสมดุล การใช้งาน AI อย่างมีจริยธรรมจึงต้องมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่องเพื่อรับรองความครอบคลุมและการเข้าถึงข้อมูลอย่างเสมอภาคในกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถจัดการกับความท้าทายด้านจริยธรรมเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจจึงควรพัฒนานโยบายและแนวปฏิบัติที่ครอบคลุมสำหรับการบูรณาการ AI เข้ากับ SEO แนวทางเหล่านี้ควรเน้นการใช้งานอย่างรับผิดชอบ โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่แท้จริง มีคุณภาพสูง และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าการใช้กลยุทธ์ที่หลอกลวงเพื่อเพิ่มอันดับ นอกจากนี้ การร่วมมือกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO นักพัฒนา AI และนักจริยธรรมสามารถส่งเสริมการสร้างเครื่องมือและกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับหลักจริยธรรม รวมถึงโปรแกรมการศึกษาและโอกาสการฝึกอบรมก็สามารถเตรียมความพร้อมให้นักการตลาดนำ AI ไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบได้ดีขึ้น สรุปคือ เมื่อ AI กลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ SEO ประ considerations ด้านจริยธรรมต้องอยู่ในศูนย์กลางของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้ ด้วยการมุ่งมั่นในความโปร่งใส การคุ้มครองความเป็นส่วนตัว การส่งเสริมความยุติธรรม และปฏิบัติตามแนวทางที่รับผิดชอบ ธุรกิจจะสามารถปรับปรุงผลลัพธ์ SEO ของตนเอง พร้อมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือระยะยาวกับผู้ใช้ได้ในที่สุด การบูรณาการ AI อย่างรอบคอบใน SEO จึงไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมเป้าหมายทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมดิจิทัลที่ดีและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนด้วย
Predis
OpenAI เปิดเผยการอัปเดตครั้งใหญ่ของแอปพลิเคชันแปลงข้อความเป็นวิดีโอ ชื่อ Sora รุ่นล่าสุดนี้มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง รวมถึงความสามารถในการเพิ่มภาพ ‘ cameo’ ของสัตว์เลี้ยงและวัตถุในวิดีโอที่สร้างด้วย AI เครื่องมือแก้ไขวิดีโอที่พัฒนาแล้ว ตัวเลือกการแชร์ในโซเชียล และเวอร์ชัน Android ของแอปที่กำลังจะมาในอนาคต ด้วยฟีเจอร์สัตว์เลี้ยง cameo ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพสัตว์เลี้ยงหรือวัตถุของตน แล้วแทรกเข้าไปในฉากวิดีโออนิเมชันที่สร้างโดย Sora ได้อย่างราบรื่น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมความเป็นส่วนตัวและสร้างสรรค์ โดยให้ผู้ใช้เน้นตัวละครที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต นอกจากนี้ Sora ยังพัฒนาความสามารถในการแก้ไขเพื่อให้การสร้างวิดีโอเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ผู้ใช้สามารถผสมวิดีโอเดิม ปรับใช้เอฟเฟกต์สไตล์ต่าง ๆ และเข้าถึงคุณสมบัติในโซเชียล เช่น ฟีดที่แสดงผลงานจากผู้อื่นเพื่อดูและแชร์ แอป Android คาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ เพื่อขยายความสามารถของ Sora ให้กว้างไกลนอกเหนือจากการเปิดตัวบน iOS และเว็บแต่เดิม การอัปเดตนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของ OpenAI ที่จะพัฒนา Sora จากการเป็นนวัตกรรมทดลอง ไปเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอในโซเชียลแบบครบถ้วน โดยสนับสนุนเนื้อหาที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของ (เช่น สัตว์เลี้ยงและวัตถุ) เพิ่มความสามารถในการแชร์ และขยายการเข้าถึงแพลตฟอร์ม เพื่อให้ Sora แข่งขันได้ดีขึ้นในวงการวิดีโอสร้างและโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม การอัปเดตนี้ยังสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้เนื้อหา ลิขสิทธิ์ (โดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยงหรือวัตถุที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของ) ความเสี่ยงจากภาพลวงตาเทียม และการกลั่นกรองเนื้อหา โดยจากการตรวจสอบก่อนหน้าเกี่ยวกับสื่อสังเคราะห์ของ Sora การเข้าสู่เนื้อหาที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นเช่นนี้อาจนำไปสู่ข้อพิจารณาทางจริยธรรมและการตรวจสอบกฎระเบียบเพิ่มเติมในอนาคต
Launch your AI-powered team to automate Marketing, Sales & Growth
and get clients on autopilot — from social media and search engines. No ads needed
Begin getting your first leads today