lang icon English
Oct. 31, 2025, 2:24 p.m.
326

เพิ่มผลตอบแทนจาก AI สูงสุดในฝ่ายขาย: จากการโฆษณาเทียมสู่การเติบโตของรายได้จริงสำหรับ CROs

Brief news summary

ก่อนปี 2019 ความกังวลของระดับผู้บริหารสูงสุดมุ่งเน้นให้ทีมขายอัปเดตระบบ CRM อย่างถูกต้อง สำหรับปัจจุบัน ผู้นำต้องเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การพิสูจน์ผลตอบแทนจากการลงทุนในแพลตฟอร์ม AI สำหรับการขาย และส่งเสริมการนำไปใช้ รวมทั้งรักษาวินัยในระบบ CRM ภายในระบบเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ถึงแม้ AI สัญญาว่าจะช่วยให้กระบวนการขายเป็นไปอย่างราบรื่น แต่หลายองค์กรกลับประสบกับ “AI-washing” ซึ่งเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่เกินจริง จนผลกระทบต่อรายได้จริงๆ ผู้นำด้านรายได้ควรมองว่า AI เป็นเครื่องมือที่สร้างมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น ผู้ช่วยที่เตรียมและสรุปข้อมูล ตัวแทนที่ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และ AI SDR ที่ทำงานอัตโนมัติด้านการค้นหาลูกค้า ในขณะที่ยังคงรักษาการพิจารณาของมนุษย์ คุณค่าที่แท้จริงอยู่ที่ประสิทธิผล คือ การทำงานที่ถูกต้องในลำดับที่เหมาะสม มากกว่าการเน้นความรวดเร็วเท่านั้น การวัดผลกระทบของ AI จึงต้องติดตามคุณภาพ อัตราการนำไปใช้ การเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงผลลัพธ์ทางธุรกิจ ความท้าทายประกอบด้วย การอัตโนมัติภารกิจที่ไม่เหมาะสมกับ AI ตัวแทนฝ่ายขายที่ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเพียงพอ และคุณสมบัติที่ไม่ตรงกับความต้องการ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า AI SDR และผู้ช่วยเหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMBs) ในขณะที่ AI ตัวแทนมีประโยชน์กับองค์กรขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน ผู้บริหารด้านรายได้สูงสุด (Chief Revenue Officers) จำเป็นต้องปรับเครื่องมือ AI ให้สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ อัตโนมัติงานสำคัญด้านรายได้ ส่งเสริมการนำไปใช้ เพิ่มความเข้มแข็งของแพลตฟอร์มขาย และหลีกเลี่ยง AI-washing โดยการเปลี่ยนจากความหวังและการโฆษณาชวนเชื่อไปสู่ผลตอบแทนที่วัดได้อย่างชัดเจน ด้วยความมุ่งเน้นที่ประสิทธิผลและการบูรณาการ AI สามารถเปลี่ยนกระบวนการขายให้กลายเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการเติบโต โดยเร่งการตัดสินใจและสร้างรายได้ที่คาดการณ์ได้ คุณพร้อมที่จะก้าวพ้นคำโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับ AI และบรรลุผลลัพธ์ที่จับต้องได้แล้วหรือยัง?

ประมาณปี 2019 ก่อนที่ AI จะบูม ผู้นำระดับสูงในองค์กรมักกังวลเรื่องความถูกต้องในการอัปเดตข้อมูล CRM ของฝ่ายขายเป็นหลัก ปัจจุบันความกังวลเหล่านั้นได้ขยายกว้างขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ผู้นำตอนนี้ถามว่า “ROI ของแพลตฟอร์ม AI สำหรับฝ่ายขายเราคืออะไร?ทีมนำเทคโนโลยีนี้เต็มที่แล้วหรือยัง?แล้วเราจะทำอย่างไรให้พวกเขาอัปเดต CRM อย่างถูกต้อง?” ROI กำลังครองวงสนทนาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ โดย AI ได้ถูกรวมเข้าในแผนงาน การประชุมรายได้ และโซเชียลมีเดีย แม้จะมีคำสัญญาว่าจะทำให้กระบวนการขายราบรื่นขึ้น แต่หลายๆ กระบวนการยังคงไม่สมบูรณ์ ซึ่งเผยให้เห็นช่องว่างระหว่างคำโฆษณาชวนเชื่อเรื่อง AI กับผลลัพธ์รายได้จริง ซึ่งเรียกกันว่า AI-washing ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่การเปลี่ยนแปลงที่อ้างว่าขับเคลื่อนด้วย AI กลับไม่แตกต่างจากเดิมในกระบวนการทำงานและข้อมูล ข้อความนี้มุ่งเป้าไปที่ CRO และผู้นำด้านรายได้ที่มองหาแผนงาน AI ที่เป็นจริง ไม่ใช่แค่ hype โดยเปรียบเทียบ AI sales assistant, ตัวแทน AI, และ AI SDR ที่มีเป้าหมายสูงเพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งใดที่แท้จริงแล้วให้ผลมีประสิทธิภาพมากกว่าการแค่ประหยัดเวลา รวมถึงวิธีการประเมิน ROI โดยไม่ต้องพึ่งพิงการ attribution ที่ซับซ้อน ### ความเป็นจริงในทีมรายได้ปัจจุบัน ข้อมูลจากผู้นำด้านรายได้ใน SaaS สามราย แสดงให้เห็นว่าเครื่องมือ AI มีการใช้อย่างแพร่หลาย ยกเว้นเฉพาะในเส้นทางการซื้อที่สำคัญ มีผู้ช่วยและแดชบอร์ดมากมาย แต่ความเร็วของ pipeline ก็แทบไม่เปลี่ยนแปลง เพราะความมีประสิทธิภาพโดยไม่ให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญเป็นเพียงภาพลวง ผู้นำด้านรายได้จึงต้องการขั้นตอนในการตัดสินใจที่น้อยลง ไม่ใช่เพิ่มงาน AI ให้มากขึ้น #### 1. เริ่มจากคำกริยา ไม่ใช่จากผู้ขาย ตัวแทนและผู้ซื้อในธุรกิจ B2B มักเจอกับคำศัพท์ที่ใช้คำลวงมากมาย วิธีที่เร็วที่สุดในการชี้ให้เห็นคุณค่า คือ การเปลี่ยนคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับ AI ให้เป็น “งานที่ต้องทำ” หากไม่มีงานที่ชัดเจน มูลค่าก็จะยังคงคลุมเครือ - **Assistants** ช่วยเตรียมการโดยการแสดงบริบท สรุปบัญชี จรดอีเมล เพิ่มความรวดเร็วในการเตรียมตัว - **Agents** เป็นเครื่องมือจัดการเวิร์กโฟลวหลายขั้นตอน เช่น คัดกรองลีด ข้อมูลเสริม กำหนดเวลา อัปเดต CRM และกระตุ้นให้ทำขั้นตอนต่อไป แต่เมื่อออกแบบมาอย่างดี พวกเขาคือเครื่องมือการประสานงาน ไม่ใช่ของเล่นธรรมดา - **AI SDRs** อัตโนมัติการหาลูกค้าและเริ่มการสื่อสาร แต่ยังต้องพึ่งพามนุษย์สำหรับการค้นพบและการเจรจา เพิ่มความสามารถ เป็นการเสริมกำลัง ไม่ใช่การทดแทนจำนวนคน Jonathan Pogact จาก Seamless. ai แนะนำให้เชื่อมโยงเครื่องมือ AI เข้ากับช่วงของการเดินทางของลูกค้า แทนที่จะบังคับเข้าโครงสร้างองค์กร เพื่อให้ Assistant และ Agent ช่วยพัฒนาทักษะของผู้ขายและเชื่อมโยงกับขั้นตอนที่วัดผลได้ #### 2. ประสิทธิภาพคือคูปอง; ประสิทธิผลคือหัวใจ อุตสาหกรรมให้คำมั่นว่า “คืนเวลาให้” แต่คุณค่าที่แท้จริงคือ “ผลตอบแทนจากเวลา” หมายความว่า ทำกิจกรรมที่ถูกต้อง ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ตามลำดับที่ควรจะเป็น ประสิทธิภาพคือการประหยัดนาที แต่ประสิทธิผลคือการขจัดอุปสรรค เช่น การกรองลีดที่ไม่ผ่านเกณฑ์หรือการแก้ไขข้อเสนอที่ติดค้าง Eric Gilpin CRO แห่ง G2 กล่าวว่า “ผมไม่อยากเป็นแค่ ‘มีประสิทธิภาพ’ ผมอยากเป็น ‘มีประสิทธิผล’ หมายถึง ทำสิ่งที่ควรทำ อย่างถูกวิธี และในลำดับที่ควรจะเป็น แนวทางที่ดีที่สุดคือ การอัตโนมัติระบบงานที่ใกล้สุดถึงลูกค้า (เช่น การนัดหมาย การสาธิต การลงนามคำสั่งซื้อ) เพื่อได้ ROI ที่ชัดเจน รวมถึงการรวมเทคโนโลยีที่แตกกระจัดกระจายให้กลมกลืน ช่วยให้ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องเรียนรู้แพลตฟอร์มใหม่ เพิ่มการใช้งานสูงสุด #### 3. วัดผลงาน ไม่ใช่แค่เสียงชื่นชม คำโฆษณามักบอกว่า “ขับเคลื่อนด้วย AI” แต่ความสำเร็จอยู่ที่การวัดผลที่เป็นตัวเลข เช่น การนัดหมายที่จองไว้ การตอบกลับของลูกค้า การเปลี่ยนผ่านในแต่ละขั้นตอน โอกาสที่ปิดการขาย การสร้างยอดขายใหม่ การปิดดีล ซึ่งต้องใช้สมุดคะแนน 4 ส่วน: - **คุณภาพ (offline):** ความแม่นยำ ความเกี่ยวข้อง น้ำเสียง และความชัดเจนก่อนปล่อยออกใช้งาน - **การนำไปใช้ (behavioral):** ผู้ใช้งานที่ใช้งานเป็นประจำ สัดส่วนการใช้งานต่อเนื่อง หากต่ำกว่า 10-20% ก็แทบไม่ได้ผลอะไร - **ประสิทธิภาพ (operational):** เวลาที่ใช้ในแต่ละงานและรอบของการทำงาน ซึ่งเป็นเมตริกที่รองลงมา - **ผลกระทบทางธุรกิจ (commercial):** อัตราตอบสนองที่ดีขึ้น การนัดหมายที่จองไว้ การเปลี่ยนผ่านขั้นตอน ความก้าวหน้าในการสร้างโอกาสและการปิดดีล Tyler Phillips จาก Apollo. io กล่าวว่า ผลลัพธ์ที่ง่ายที่สุดในการพิสูจน์ คือ ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับลูกค้า เช่น การส่งข้อความแบบ AI ที่ได้รับคำตอบทันที ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์โดยตรง ### ข้อผิดพลาดทั่วไปใน AI สำหรับการขาย - **ทำงานซ้ำซากที่ไม่มีความสำคัญ:** หลีกเลี่ยงการอัตโนมัติ tasks ที่ไม่มีมูลค่าหรือไม่สร้างรายได้ - **ตัวแทนที่ยังไม่พร้อม:** ลูกค้าสร้างรายชื่อ vendor ก่อนโทร; การส่งข้อความทั่วไปโดยไม่สนใจสัญญาณจากลูกค้า เป็นการเสียโอกาส ใช้ Assistant เพื่อสังเคราะห์บริบทและปรับการค้นพบให้ดีขึ้น - **ความไม่ลงตัวของฟีเจอร์:** ผู้ใช้งานส่วนใหญ่เข้าถึงแค่ประมาณ 20% ของฟีเจอร์ AI ผลิตภัณฑ์ที่ดีควรมีแนวทางคำแนะนำ คำแนะนำ ช่วยลดความหงุดหงิด Jonathan Pogact สรุปว่า “งานทำซ้ำๆ จะเร็วขึ้น แต่รายได้จะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อคุณใช้ AI สำหรับสิ่งที่ถูกต้องในลำดับที่ถูกต้อง” ### AI SDRs, Assistants และ Agents: ข้อมูลที่ค้นพบ การวิเคราะห์รีวิวใน G2 ประมาณ 2000 ราย พบว่า: - AI SDRs และ Assistants ทำงานได้ดีที่สุดในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ด้วยความรวดเร็วและเรียบง่าย - AI Agents เหมาะกับการจัดการเวิร์กโฟลวที่ซับซ้อนในองค์กรขนาดใหญ่ แสดงถึงความเจริญไปสู่ ‘agentic AI’ - การนำไปใช้ขึ้นอยู่กับขนาดบริษัทและบทบาท: SMB ต้องการเข้าถึงลีดอย่างรวดเร็ว ส่วนองค์กรใหญ่ต้องการระบบทำงานที่รวมการปฏิบัติตามและการควบคุม - ระยะเวลาการคืนทุนแตกต่างกันไป แต่การนำ AI ไปใช้ของผู้ใช้ยังคงเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จสำคัญ ### จาก AI-washing สู่ความเป็นจริงด้านรายได้: คำแนะนำสำหรับ CROs AI กลายเป็นระบบปฏิบัติการของทีมรายได้ เพื่อใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ CRO ควร: - **ตรวจสอบช่องว่าง “AI เพื่อ ___”**: เชื่อมแต่ละเครื่องมือ AI เข้ากับเป้าหมายรายได้ชัดเจน - **อัตโนมัติขั้นสุดท้าย** (last mile): จัดลำดับเวิร์กโฟลว์ที่ใกล้กับรายได้ เช่น การเร่งความเร็วในการติดต่อ การส่งต่อ SDR-to-AE - **ผลักดันการนำไปใช้ให้สม่ำเสมอ:** การใช้งานเป็นประจำรายสัปดาห์ของตัวแทนเป็นสิ่งสำคัญ - **ปรับบทบาทให้สอดคล้อง ROI:** ใช้ Assistant สำหรับเวิร์กโฟลว์ของตัวแทน SMB; ใช้ Agent สำหรับการดำเนินงานระดับองค์กร - **วางแผนการปรับลดผู้ขายและรวมระบบ:** คาดว่าจะมีผู้ขายน้อยลงและใช้เกณฑ์ ROI ที่ชัดเจนมากขึ้น ### แผนปฏิบัติการ 30 วันสำหรับ CROs - **สัปดาห์ที่ 1:** ตรวจสอบเครื่องมือ AI ทั้งหมด หาเป้าหมาย “เพื่อ ___” ชัดเจน ยุติใช้เครื่องมือที่ไม่มีผลวัดผลได้ - **สัปดาห์ที่ 2:** อัตโนมัติขั้นสุดท้ายให้เสร็จแล้วด้วยบทบาทของ Agent ที่ชัดเจนและจุดตรวจสอบคน ค้นนำร่องกับทีมบางกลุ่ม - **สัปดาห์ที่ 3:** ใช้สมุดคะแนน 4 ส่วนวัดคุณภาพ ความนิยม ความเร็ว และผลกระทบทางธุรกิจ - **สัปดาห์ที่ 4:** รวมแพลตฟอร์มเหลือสองระบบ ควบคุมด้านเจ้าของ การรายงานความล้มเหลว การสร้างแบรนด์ และความเป็นส่วนตัว ### ทีมขายของคุณผิดพลาดเรื่อง AI-washing หรือไม่? บ่อยครั้งใช่ ทีมจำนวนมากใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ล้มเหลวในการเชื่อมโยงกับขั้นตอนในเส้นทางลูกค้า ทำให้เกิด AI-washing หรือการแสดงความสามารถแบบเทียม ที่ไม่มีผลต่อรายได้ CRO ที่มุ่งเน้นออโต้เวิร์กโฟลว์ในขั้นสุดท้าย ติดตามผลลัพธ์จริง และตั้งคำถามกับผู้ขาย จะเปลี่ยน AI ให้เป็นแรงผลักดันสำคัญ ความท้าทายยังคงอยู่ที่การเปลี่ยนจาก hype สู่การทำงานที่พิสูจน์ ROI ที่บรรลุผลจริง ซึ่งจะทำให้เส้นทางของผู้ซื้อเร่งสู่การตัดสินใจดียิ่งขึ้น สุดท้าย เส้นทางซื้อขายที่ราบรื่นจะเหนือกว่าความโฆษณา AI ที่ดูเด่น ### คำถามที่พบบ่อย 1.

**AI-washing คืออะไร?** การอ้างความสามารถของ AI โดยไม่มีผลวัดผลในเส้นทางลูกค้า สร้างภาพลวงแต่ไม่มีผลสัมฤทธิ์ 2. **ความแตกต่างระหว่าง AI SDRs, Assistants และ Agents?** Assistants ช่วยเตรียมและสรุปข้อมูล; Agents จัดการเวิร์กโฟลว เช่น ส่งต่อ นัดหมาย; AI SDRs อัตโนมัติการค้นหาและเริ่มการสื่อสาร แต่ยังไม่แทนที่มนุษย์ในเชิงลึก 3. **จะวัด ROI อย่างไร?** ใช้เมตริกคุณภาพ ความนิยม ประสิทธิภาพ และผลกระทบทางธุรกิจ ตามเป้าหมายรายได้ 4. **ตำแหน่งที่ AI นำไปใช้ได้ดีที่สุดคือที่ไหน?** อเมริกาเหนือเป็นผู้นำ เอเชียแปซิฟิก และยุโรปเพิ่มความสนใจ ตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย ออสเตรเลีย และฝรั่งเศสดูเหมือนยังเข้าไม่ถึงเต็มที่ 5. **จะหลีกเลี่ยง AI-washing ได้อย่างไร?** ตรวจสอบกรณีใช้งาน AI ด้วยแนวคิด “เพื่อ ___” อัตโนมัติขั้นสุดท้ายก่อนเป็นอันดับแรก ปรับเครื่องมือให้เหมาะสมกับบทบาทเน้นการนำไปใช้ สร้างการรับรู้และการนำไปใช้งานอย่างจริงจัง โดยสรุปแล้ว บทบาทของ AI ในการขายได้เปลี่ยนจากคำพูดลอยตัวกลายเป็นกลไกการเติบโตที่แท้จริง ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการเน้นที่ผลลัพธ์มากกว่าประสิทธิภาพ การวัดผลอย่างเคร่งครัด และความสม่ำเสมอในการนำไปใช้ เพื่อเปลี่ยนทีมขายให้กลายเป็นเครื่องมือเป้าหมายและสร้างรายได้ที่มั่นคง พร้อมจะเร่งเส้นทางลูกค้าไปสู่คำว่า “ใช่” หรือไม่?


Watch video about

เพิ่มผลตอบแทนจาก AI สูงสุดในฝ่ายขาย: จากการโฆษณาเทียมสู่การเติบโตของรายได้จริงสำหรับ CROs

Try our premium solution and start getting clients — at no cost to you

I'm your Content Creator.
Let’s make a post or video and publish it on any social media — ready?

Language

Hot news

Oct. 31, 2025, 2:21 p.m.

Otterly.ai โผล่ขึ้นมาเพื่อเฝ้าระวังความมองเห็นของการค้…

Otterly

Oct. 31, 2025, 2:19 p.m.

บริษัทผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ Nvidia เป็นบริษัทมูลค่า…

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Nvidia กลายเป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ สองสามเดือนหลังจากที่ทำลายสถิติ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ความก้าวหน้านี้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ในฐานะผู้ออกแบบและผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ AI ชั้นนำ Nvidia อยู่แนวหน้าของการปฏิวัตินี้ โซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่นวัตกรรมของบริษัทพัฒนาขึ้นเป็นตัวขับเคลื่อนความก้าวหน้าในด้านการเรียนรู้ของเครื่อง ศูนย์ข้อมูล ยานยนต์อัตโนมัติ และหุ่นยนต์ รวมถึงสาขาอื่นๆ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในความเติบโตของ Nvidia สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของ AI ที่ขยายตัวไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงฟองตลาดที่เกิดจากความตื่นเต้นของนักลงทุนต่อหุ้น AI การเติบโตของมูลค่าตลาดอย่างรวดเร็วนี้สร้างความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนและความเป็นไปได้ที่ความคาดหวังอาจเกินพื้นฐานระยะสั้นของ Nvidia มูลค่าตลาดของ Nvidia ถูกผลักดันโดยความต้องการสูงสำหรับ GPU รุ่นล่าสุดและแพลตฟอร์มเร่งความเร็ว AI ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการฝึกและการใช้งานโมเดล AI ระดับสูง การเพิ่มขึ้นของความต้องการนี้ทำให้เกิดข้อจำกัดด้านซัพพลายและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากบริษัทเซมิคอนดักเตอร์อื่น ๆ ที่หวังจะได้รับประโยชน์จากบูม AI เพื่อตอบสนอง Nvidia ลงทุนอย่างหนักในงานวิจัยและพัฒนา ขยายกำลังการผลิต และเสริมศักยภาพห่วงโซ่อุปทานเพื่อรองรับความต้องการทั่วโลก กลยุทธ์ของบริษัทมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาชิปที่มีพลังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเหมาะสมกับงานด้าน AI นอกจากนี้ ระบบนิเวศของ Nvidia ยังประกอบด้วยเครื่องมือและแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนการพัฒนาและการใช้งาน AI ซึ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม AI การเน้นทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์นี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้ Nvidia เติบโตและรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน ในภาพรวม ความก้าวหน้าของ Nvidia ชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของบทบาทของบริษัทเทคโนโลยีในเศรษฐกิจโลก เมื่อ AI กลายเป็นเรื่องปกติ บริษัทอย่าง Nvidia จึงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรมและประสิทธิภาพในสาขาต่าง ๆ รวมถึงด้านการดูแลสุขภาพ การเงิน การผลิต บันเทิง และการขนส่ง เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า AI ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงทางเศรษฐกิจที่ทรงพลังซึ่งนำโอกาสมาพร้อมกับความท้าทาย เช่น ประเด็นด้านจริยธรรม การเปลี่ยนแปลงของแรงงาน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการกำกับดูแล ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่ามูลค่าที่สูงสุดของ Nvidia สะท้อนถึงศักยภาพของบริษัท แต่การเติบโตอย่างต่อเนื่องจะขึ้นอยู่กับนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง การบริหารซัพพลายเชนอย่างมีประสิทธิภาพ และการนำทางในตลาดที่มีการแข่งขันและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะจับตามองว่า Nvidia จะจัดการความสมดุลระหว่างปัจจัยเหล่านี้อย่างไรในอนาคต โดยสรุป ความสำเร็จของ Nvidia ที่มีมูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์เป็นสัญญาณสำคัญของการบูรณาการ AI เข้าสู่ตลาดโลก แสดงให้เห็นถึงการฝังตัวอย่างลึกซึ้งของ AI ในเศรษฐกิจสมัยใหม่และความเสี่ยงสูงในการแข่งขันเพื่อพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยี AI ระดับสูง แม้จะมีคำเตือนบ้าง แต่ความสำเร็จของ Nvidia สัญญาณถึงยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่บริษัทเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าทางเศรษฐกิจในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

Oct. 31, 2025, 2:18 p.m.

เทคโนโลยีควอนตัมที่แข็งแกร่งของ Scope AI ช่วยเพิ่มควา…

Scope AI ได้เปิดตัวความก้าวหน้าที่เป็นนวัตกรรมด้านความปลอดภัยข้อมูล ด้วยการพัฒนเทคโนโลยีสุ่มข้อมูลที่ต้านทานควิอนท์ ซึ่งรู้จักกันในชื่อเทคโนโลยี QSE (Quantum Resilient Entropy Technology) โซลูชันนี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากภัยคุกคามในอนาคตที่เกิดจากการพัฒนาของคอมพิวเตอร์ควอนตัม ในยุคที่ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลกำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการตลาด เทคโนโลยีใหม่นี้ของ Scope AI จัดเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญจากภัยไซเบอร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น การมาของคอมพิวเตอร์ควอนตัมเป็นความท้าทายสำคัญต่อเทคโนโลยีการเข้ารหัสแบบเดิม เนื่องจากการเติบโตของหน่วยประมวลผลควอนตัมทำให้ความสามารถในการแฮกข้อมูลแบบเดิมสามารถถูกทำลายได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการใช้งานในทางที่ผิด เพื่อรับมือกับจุดอ่อนนี้ Scope AI จึงได้สร้างเทคโนโลยี QSE เพื่อให้เป็นชั้นความปลอดภัยที่ต้านทานควิอนท์ โดยมั่นใจว่าข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสนั้นจะยังคงปลอดภัยและไม่สามารถถูกเข้าถึงได้แม้ในยุคที่เทคโนโลยีควอนตัมก้าวหน้าอย่างมาก เทคโนโลยี QSE นี้ไม่ใช่เพียงแค่ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว แต่ถูกบรรจุอยู่ในแพลตฟอร์ม GEM ของ Scope AI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการแก่ผู้ลงโฆษณา แบรนด์ และเอเจนซี ด้วยชุดเครื่องมือขั้นสูงที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของการโฆษณา ด้วยการผสมผสานการรู้จำภาพ เครือข่ายประสาทเทียม และกระบวนการอัตโนมัติด้วย AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้านโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบรรจุเทคโนโลยี QSE เข้ากับระบบนี้ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการปรับปรุงเหล่านี้ โดยมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลการตลาดที่ละเอียดอ่อน ตลอดระยะเวลาการใช้งาน เนื่องจากอุตสาหกรรมการตลาดพึ่งพาข้อมูลลูกค้าในปริมาณมากเพื่อการทำแคมเปญเป้าหมาย การรักษาความลับของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง Scope AI จึงได้พัฒนาเทคโนโลยี QSE อย่างเชิงรุกเพื่อรองรับความเสี่ยงเหล่านี้ โดยการเสริมสร้างความปลอดภัยของข้อมูลให้แข็งแกร่งขึ้นจากภัยคุกคามของควิอนท์ ซึ่งเป็นการช่วยวางรากฐานด้านความเป็นส่วนตัวทางข้อมูลในสายงานการตลาดในอนาคต นอกจากนี้ การบรรจุเทคโนโลยี QSE เข้ากับแพลตฟอร์ม GEM ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Scope AI ไม่เพียงแต่ด้านการพัฒนาประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำความสำคัญของความมั่นคงปลอดภัยอีกด้วย นักโฆษณาและเอเจนซีสามารถใช้งานเครื่องมือของแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างมั่นใจ โดยมั่นใจว่ากลยุทธ์และแคมเปญของพวกเขานั้นได้รับการสนับสนุนด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งการโฟกัสร่วมกันในด้านนวัตกรรมและความปลอดภัยนี้ ทำให้ Scope AI เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโฆษณาและการปกป้องข้อมูลในยุคดิจิทัล โดยสรุป การเปิดตัวเทคโนโลยีสุ่มข้อมูลที่ต้านทานควิอนท์ของ Scope AI ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในยุคที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การบูรณาการเทคโนโลยีนี้เข้ากับแพลตฟอร์ม GEM ช่วยให้มืออาชีพด้านการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ชั้นนำในขณะเดียวกันก็รักษามาตรฐานความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ในขณะที่เทคโนโลยีควอนตัมยังคงพัฒนาไปเรื่อย ๆ โซลูชันอย่าง QSE จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและสร้างความไว้วางใจในระบบโฆษณาดิจิทัลในอนาคต

Oct. 31, 2025, 2:16 p.m.

ปัญญาประดิษฐ์ในวิเคราะห์วิดีโอ: เปิดเผยข้อมูลเชิงลึ…

ปัญญาประดิษฐ์กำลังเปลี่ยนแปลงการวิเคราะห์วิดีโออย่างรุนแรง โดยช่วยให้สามารถสกัดข้อมูลเชิงปฏิบัติได้จากข้อมูลภาพจำนวนมาก ด้วยอัลกอริทึม AI ขั้นสูง ระบบวิดีโอต่าง ๆ สามารถวิเคราะห์ได้ทั้งในเวลาจริงและย้อนหลัง เพื่อจับแพทเทิร์นที่ซับซ้อน จำแนกพฤติกรรมเฉพาะ และค้นหาความผิดปกติที่ละเอียดอ่อน ซึ่งมักมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ความสามารถนี้ช่วยให้ธุรกิจและองค์กรสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและอิงข้อมูลจากเนื้อหาวิดีโอ ในอุตสาหกรรมค้าปลีก การวิเคราะห์วิดีโอด้วย AI ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ ระบบเหล่านี้สังเกตพฤติกรรมของลูกค้าในร้านค้า ตรวจเส้นทางการเคลื่อนไหว เวลาที่อยู่ในแต่ละจุด และปฏิสัมพันธ์กับสินค้า ด้วยความเข้าใจว่าลูกค้าเคลื่อนไหวและมีปฏิสัมพันธ์อย่างไรในสิ่งแวดล้อมของร้านค้า ธุรกิจสามารถปรับปรุงการจัดวางร้านค้าเพื่อยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้งและเพิ่มยอดขาย นอกจากนี้ AI ยังช่วยสนับสนุนการบริหารสินค้าคงคลังให้ดีขึ้น โดยการตรวจสอบความพร้อมของสินค้าในชั้นวางและทำนายความต้องการเติมสินค้า เพื่อป้องกันการขาดสต็อกและการมีสินค้าเกินคงคลัง ด้านสุขภาพเป็นอีกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการวิเคราะห์วิดีโอด้วย AI แพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้ AI ในการติดตามผู้ป่วยผ่านการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวิดีโอในห้องพักผู้ป่วยหรือศูนย์ดูแล เช่น AI สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวผิดปกติหรือการล้มของผู้สูงอายุ เพื่อแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างรวดเร็ว ในด้านการวินิจฉัย AI วิเคราะห์ข้อมูลภาพทางการแพทย์ เช่น เอกซเรย์ MRI หรือ CT สแกน เพื่อค้นหาความผิดปกติ ช่วยให้วินิจฉัยได้เร็วขึ้นและวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการบูรณาการ AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความรวดเร็วในการประเมินผลทางการแพทย์ ส่งผลดีต่อคุณภาพการดูแลผู้ป่วยโดยรวม ข้อดีพื้นฐานของ AI ในการวิเคราะห์วิดีโอคือความสามารถในการประมวลผลและแปลความหมายข้อมูลภาพจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกรบกวนจากความเมื่อยล้าหรืออคติของมนุษย์ ความสามารถนี้เปิดโอกาสมากมายให้แก่องค์กรในหลายอุตสาหกรรมในการใช้คลังข้อมูลวิดีโออย่างมีกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยและการเฝ้าระวัง การพัฒนาระบบจราจออัจฉริยะ หรือการวิจัยด้านพฤติกรรมศาสตร์ ระบบวิเคราะห์วิดีโอด้วย AI ขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาต่อไป อนาคตจะมีการใช้งานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ความก้าวหน้าในโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง วิชาชาญทางคอมพิวเตอร์วิชั่น และเพิ่มพลังในการประมวลผล จะช่วยให้การวิเคราะห์วิดีโอรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น การพัฒนาเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ในเชิงลึกขึ้น การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และการตอบสนองอัตโนมัติ ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการที่ภาคธุรกิจใช้ประโยชน์จากข้อมูลวิดีโอ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาลึกซึ้งในด้านนี้ DATAVERSITY มีบทความที่ครอบคลุมเกี่ยวกับบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ในงานวิเคราะห์วิดีโอ บทความนี้ครอบคลุมเทคโนโลยีปัจจุบัน การใช้งานในทางปฏิบัติ ความท้าทาย รวมถึงแนวโน้มใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในสาขานี้ การอ่านเนื้อหาเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจอย่างละเอียดว่าสิ่งที่ AI ทำในการวิเคราะห์ข้อมูลวิดีโอและผลกระทบในหลายภาคส่วนเป็นอย่างไร

Oct. 31, 2025, 2:09 p.m.

สองแนวคิดเกี่ยวกับแนวโน้มการตลาดบนโซเชียลมีเดียในอน…

ปีแห่งการตลาดตามบรรยากาศและเนื้อหาที่สร้างโดยมนุษย์ AI ยังคงเปลี่ยนแปลงโลกอย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนความคาดหวังของผู้ชมและกำหนดบทบาทของมืออาชีพด้านการตลาดในวันนี้ นักการตลาดเน้นไปที่บรรยากาศ ความคิดสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการเครื่องมือ AI อย่างชำนาญ ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น ผู้ชมก็ยังคงต้องการการเชื่อมโยงที่แท้จริงของมนุษย์ คุณค่าขององค์ประกอบ“มนุษย์” ในเนื้อหา เช่นวิดีโอที่ไม่สมบูรณ์แบบ ภาพประกอบสร้างสรรค์ และการสื่อสารที่น่าดึงดูดใจและมีเสน่ห์ยังคงเป็นที่นิยม ประสบการณ์ฟิจีทัลและการยอมรับความขี้เกียจ – “ไวรัส” รูปแบบใหม่ เมื่อการขาดแคลนดิจิทัลเข้ามา ผู้ชมเริ่มให้ความสำคัญกับประสบการณ์ออฟไลน์มากขึ้นและยอมรับด้าน“ไม่ทำอะไร” ของตนเอง การมีปฏิสัมพันธ์ในโลกแห่งความเป็นจริงได้กลายเป็นความล้ำค่าในสายตาผู้คน ขณะที่“นอนดู TikTok จากเตียง” ก็กลายเป็นแนวโน้มทั่วโลก การทำกิจกรรมฟิจีทัลควบคู่กับอารมณ์ขันเกี่ยวกับ “พ่อรวย” จะได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งาน การบริโภค “โดพามิน” ในระดับเร่งด่วน ในช่วงวิกฤติความเหงาและปัญหาโลกอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างความคิดที่เรียกว่า“ดอฟาโนมิกส์” ก็ได้ปรากฏขึ้น ผู้ชมแสวงหาแค่ความพึงพอใจทันทีบนโลกออนไลน์ กระตุ้นให้เกิดเทรนด์ช้อปปิ้งแบบเล่นเกม น้ำเสียงเข้มและแปลกใหม่ (ToV) และเนื้อหาแนวตั้งที่เพิ่มขึ้น อ่านเพิ่มเติม: วิธีสร้างแบรนด์ MVP ด้วย AI: คู่มือทีละขั้นตอนจากแหล่งข้อมูลที่ชัดเจน ทิฟฟานี่ & ฟรางเคนสไตน์: วิธีที่แบรนด์เปลี่ยนการวางสินค้าให้เป็นกลยุทธ์อิทธิพลทางวัฒนธรรม แนวโน้มใหม่ในตลาดอเมริกัน: แสดงสินค้าชุมชน ปี 2025: ปีแห่งตัวแทน AI – เราจะทำอะไรบ้าง? ขอบคุณค่ะ!

Oct. 31, 2025, 10:40 a.m.

การปรับแต่งวิดีโอด้วย AI เพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาออน…

ผู้ลงโฆษณาใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างและส่งมอบโฆษณาวิดีโอมากขึ้นเรื่อย ๆ ความก้าวหน้าหนึ่งในด้านนี้คือการปรับให้วิดีโอเป็นส่วนตัวด้วย AI ซึ่งใช้อัลกอริทึมขั้นสูงในการปรับเนื้อหาวิดีโอให้เหมาะสมกับผู้ชมแต่ละคน วิธีนี้ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถสร้างโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย ซึ่งสอดคล้องกับความชื่นชอบและพฤติกรรมเฉพาะตัวของแต่ละคน ส่งผลให้ประสบการณ์โฆษณามีความน่าสนใจและมีผลกระทบมากขึ้น ในแก่นแท้ การปรับวิดีโอแบบส่วนตัวด้วย AI ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้จำนวนมาก โดยการเก็บรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลเช่น พฤติกรรม ความสนใจ ความชื่นชอบ และข้อมูลประชากร ซึ่ง AI สามารถทำนายเนื้อหาที่จะโดนใจผู้ชมแต่ละคนได้ ข้อมูลเชิงลึกนี้ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถก้าวข้ามโฆษณาโดยทั่วไปและปรับแต่งวิดีโอให้ตรงกับรสนิยมและความต้องการเฉพาะบุคคล อัลกอริทึม AI ใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อวิเคราะห์ปฏิสัมพันธ์ เช่น การดูวิดีโอในอดีต การคลิก การซื้อสินค้า ประวัติการท่องเว็บ และกิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย ข้อมูลเหล่านี้ช่วยสร้างโปรไฟล์ผู้ชมที่ละเอียดอ่อน ซึ่งจะเป็นแนวทางในการปรับแต่งเนื้อหาโฆษณาแบบไดนามิก เช่น ข้อความ ภาพ สิ้นค้าแนะนำ และคำเรียกร้องให้ดำเนินการ เพื่อเพิ่มความสนใจและการมีส่วนร่วมสูงสุด การปรับแต่งนี้ให้ข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับการโฆษณาแบบเดิม โฆษณาวิดีโอแบบส่วนตัวจะมีแนวโน้มดึงดูดความสนใจของผู้ชมมากขึ้น เนื่องจากเนื้อหามีความเกี่ยวข้องและตอบสนองความชื่นชอบเฉพาะตัว กระตุ้นให้ผู้ชมดูนานขึ้นและจดจำข้อมูลได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่แข็งแกร่งระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค โดยการตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริงและน้อยที่สุดในด้านการรบกวน เพิ่มความไว้วางใจและความภักดี นอกจากนี้ การปรับวิดีโอด้วย AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ โฆษณาชิ้นนี้พบว่าอัตราการมีส่วนร่วมสูงขึ้น เช่น การคลิกเข้าชมมากขึ้น และเวลาที่ใช้ดูนานขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออัตราการเปลี่ยนแปลง (conversion rate) ที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของยอดขาย การลงทะเบียน หรือเป้าหมายอื่น ๆ การโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายช่วยลดการใช้จ่ายที่ไม่คุ้มค่า เนื่องจากเน้นไปยังกลุ่มที่สนใจจริง ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) จากมุมมองผู้บริโภค โฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมและเป็นส่วนตัวนี้สร้างประสบการณ์การรับชมที่เกี่ยวข้องและสนุกสนานมากขึ้น แทนที่จะต้องดูโฆษณาแบบทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้อง ผู้ชมจะได้รับเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจของตน ลดความเบื่อหน่ายจากโฆษณาและเพิ่มความพึงพอใจในแพลตฟอร์มเนื้อหา เทคโนโลยีใหม่ ๆ ยังคงพัฒนาการปรับแต่งวิดีโอด้วย AI ให้ดีขึ้น การพัฒนาในด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ทำให้ AI สามารถสร้างข้อความโฆษณาที่ซับซ้อนและน่าดึงดูดมากขึ้น ขณะที่เทคนิคการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Vision) ช่วยให้การปรับภาพและวิดีโอให้ตรงกับความชื่นชอบของผู้ใช้เป็นไปได้แบบเรียลไทม์ การประมวลผลข้อมูลในเวลาจริงช่วยให้โฆษณายังคงความเกี่ยวข้องกับบริบทปัจจุบันของผู้ชมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและจริยธรรมในการใช้ AI ผู้ลงโฆษณาจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและรักษาความโปร่งใสในการจัดการข้อมูล เพื่อรักษาความไว้วางใจของผู้บริโภค มีความต้องการเพิ่มขึ้นสำหรับแนวปฏิบัติ AI ที่รับผิดชอบ เคารพความเป็นส่วนตัว และหลีกเลี่ยงการโฆษณาที่หลอกลวงหรือบิดเบือน แม้จะมีความกังวลเหล่านี้ แต่การปรับแต่วิดีโอด้วย AI ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนโฆษณาอย่างมีนัยสำคัญ แบรนด์ต่าง ๆ ที่นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งและได้รับคุณค่าจากกลยุทธ์การตลาดมากขึ้น เมื่อ AI ผนวกรวมเข้าไว้ในระบบดิจิทัลมากขึ้น โฆษณาวิดีโอแบบส่วนตัวจะกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ โดยสรุป การปรับแต่วิดีโอด้วย AI เป็นแนวทางโฆษณาที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสร้างเนื้อหาวิดีโอที่ตรงเป้าหมายและมีความเกี่ยวข้องกับแต่ละบุคคล โดยการวิเคราะห์พฤติกรรมและความชื่นชอบของผู้ใช้ด้วยอัลกอริทึม AI ขั้นสูง ผู้ลงโฆษณาสามารถส่งมอบโฆษณาที่น่าดึงดูดและช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนแปลง วิธีนี้จึงเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ลงโฆษณา ซึ่งมุ่งหวังผลตอบแทนสูงสุด และต่อผู้บริโภค ซึ่งต้องการโฆษณาที่เกี่ยวข้องและน้อยกว่าการรบกวน เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาและปัญหาเชิงจริยธรรมได้รับการแก้ไข การปรับแต่วิดีโอด้วย AI ก็จะกลายเป็นแนวปฏิบัติมาตรฐานในการสร้างประสบการณ์โฆษณาที่มีประสิทธิภาพและน่าดึงดูด

Oct. 31, 2025, 10:29 a.m.

OpenAI ระดมทุนได้ 40 พันล้านดอลลาร์ ด้วยมูลค่าประเมิน 3…

OpenAI ได้รับการระดมทุนครั้งประวัติศาสตร์จำนวน 40 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้มูลค่าบริษัทแตะ 300 พันล้านดอลลาร์ เป็นดีลเทคโนโลยีเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ จุดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของ OpenAI และความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในโลกเทคโนโลยีปัจจุบัน การระดมทุนครั้งนี้นำโดย SoftBank ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงเรื่องการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ นักลงทุนรายหลักคนอื่น ๆ ได้แก่ Microsoft, Coatue, Altimeter และ Thrive ซึ่งต่างก็เชื่อมั่นในศักยภาพการเปลี่ยนแปลงของ AI ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ความสำเร็จอันก้าวล้ำของ OpenAI และวิสัยทัศน์ด้านการวิจัย AI ที่ทะเยอทะยาน ได้สร้างความเชื่อมั่นอย่างแข็งแกร่งให้แก่นักลงทุน ทำให้เกิดการลงทุนทุนที่เป็นประวัติศาสตร์นี้ เงินจำนวน 40 พันล้านดอลลาร์นี้จะช่วยเสริมความสามารถในการเร่งการวิจัยและพัฒนา ขยายขีดจำกัดของความสามารถ AI ทุนนี้จะสนับสนุนการสร้างนวัตกรรม AI ต่อเนื่อง การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ OpenAI สามารถขยายการดำเนินงานและปรับปรุงการเข้าถึงเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจ นักพัฒนา และผู้ใช้งานทั่วโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา OpenAI ได้เป็นผู้นำด้านความก้าวหน้าในด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ การเรียนรู้เสริมกำลัง และเนื้อหาที่สร้างโดย AI ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ การได้รับเงินทุนเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้บริษัทรักษาความเป็นผู้นำในสาขาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากความแข็งแกร่งทางการเงินแล้ว การสนับสนุนจากนักลงทุนกลุ่มใหญ่ยังเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือด้านกลยุทธ์ ซึ่งอาจช่วยให้การผนวกรวมการนวัตกรรมของ OpenAI เข้ากับแพลตฟอร์มและบริการต่าง ๆ ได้กว้างขวางขึ้น เพื่อขยายอิทธิพลของบริษัท ความเป็นผู้นำของ SoftBank ในรอบนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอนาคตของโลกของบริษัท Microsoft ก็เพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น เนื่องจากความร่วมมือก่อนหน้านี้กับ OpenAI ซึ่งรวมถึงการฝังโมเดล AI เข้ากับการคำนวณแบบคลาวด์และผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ส่วน Coatue, Altimeter และ Thrive ก็เหลือบเห็นความเชี่ยวชาญในด้านการขยายบริษัทเทคโนโลยีและการขับเคลื่อนนวัตกรรม มูลค่าบริษัทที่แตะ 300 พันล้านดอลลาร์นี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในปัจจุบันของ OpenAI แต่ยังสะท้อนศักยภาพอันมหาศาลของ AI ในฐานะเทคโนโลยีสำคัญสำหรับอีกหลายทศวรรษข้างหน้า AI จะกลายเป็นเครื่องมือปฏิวัติในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สุขภาพ การเงิน การศึกษา ยานพาหนะ และความบันเทิง ส่งผลให้ OpenAI กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในเศรษฐกิจโลก ในอนาคต OpenAI จะใช้เงินทุนนี้ในการเร่งพัฒนารุ่นโมเดล AI รุ่นใหม่ ปรับปรุงความปลอดภัยและความเชื่อถือของ AI รวมถึงการสำรวจการนำไปใช้ในด้านต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน โครงสร้างพื้นฐานจะได้รับการอัปเกรดเพื่อรองรับความต้องการด้านการคำนวณที่เพิ่มขึ้นและรับประกันการใช้งาน AI ที่มีประสิทธิภาพและสามารถขยายตัวได้ นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นในด้านการพัฒนา AI อย่างจริยธรรม โดยเน้นความโปร่งใส ความเท่าเทียม และค่านิยมที่มนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการอัตโนมัติ ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย รอบระดมทุนประวัติศาสตร์นี้ ทำให้ OpenAI อยู่ในตำแหน่งสำคัญในการกำหนดอนาคตของเทคโนโลยี AI และการผนวกเข้ากับสังคม ในขณะที่ AI ยังคงเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่าง ๆ OpenAI พร้อมที่จะเป็นผู้นำในการสนับสนุนการนวัตกรรม ส่งเสริมความร่วมมือ และชี้แนะแนวทางการพัฒนา AI อย่างรับผิดชอบทั่วโลก

All news

AI Company

Launch your AI-powered team to automate Marketing, Sales & Growth

and get clients on autopilot — from social media and search engines. No ads needed

Begin getting your first leads today