lang icon Thai
Auto-Filling SEO Website as a Gift

Launch Your AI-Powered Business and get clients!

No advertising investment needed—just results. AI finds, negotiates, and closes deals automatically

May 29, 2025, 8:58 p.m.
3

การศึกษาของ Ivanti เผยการใช้งาน AI สร้างสรรค์ที่ซ่อนเร้นในที่ทำงานและความจำเป็นในการปรับปรุงนโยบายองค์กร

จำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นกำลังนำเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ (AI) เช่น ChatGPT เข้ามาใช้ในงานประจำวันของตน โดยส่วนใหญ่มักจะไม่แจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบ จากการศึกษาของ Ivanti ล่าสุดพบว่า พนักงานออฟฟิศร้อยละ 42 ใช้เทคโนโลยี AI สร้างสรรค์ โดยหนึ่งในสามของพวกเขาเก็บการใช้งานนี้เป็นความลับจากองค์กรของตน แนวโน้มนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเรื่องการนำ AI เข้ามาใช้ในที่ทำงาน และทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับนโยบายบริษัทและพฤติกรรมของพนักงาน ความลับเรื่องการใช้งาน AI นี้เกิดจากหลายปัจจัย หลายบริษัทมีนโยบายเกี่ยวกับ AI ที่ไม่ชัดเจนหรือไม่เพียงพอ ทำให้พนักงานไม่แน่ใจว่าสิ่งใดอนุญาตได้ อีกทั้งบางองค์กรห้ามหรือจำกัดการใช้งานเครื่องมือ AI บางอย่างด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้พนักงานต้องปกปิดการใช้งานเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านวินัย นอกจากนี้ยังมีพนักงานบางคนซ่อนการใช้งาน AI เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น การเพิ่มผลผลิต ความคิดสร้างสรรค์ หรือการแก้ปัญหา โดยไม่เปิดเผยการช่วยเหลือจาก AI ในช่วงแรก องค์กรมีการตอบสนองด้วยความระมัดระวังหรือแม้แต่การไม่สนับสนุนการใช้ AI เนื่องจากกังวลว่าข้อมูลที่เป็นความลับอาจรั่วไหลผ่านแพลตฟอร์ม AI บนคลาวด์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการตีตราเกี่ยวกับการใช้งาน AI ในที่ทำงาน ทำให้พนักงานต้องนำเครื่องมือ AI มาใช้ในลักษณะลับๆ ซึ่งเรียกว่าการใช้ “shadow AI” หรือ BYOAI (“นำ AI ของตนเองมาใช้”) ซึ่งเป็นเครื่องหมายของช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างพฤติกรรมของพนักงานและการกำกับดูแลขององค์กร ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วนี้ แม้ผู้ว่าจ้างจะมีความกังวล แต่การศึกษาของ Ivanti ก็แสดงให้เห็นว่าพนักงานที่ใช้งาน AI เป็นประจำส่วนใหญ่ยอมรับการใช้เครื่องมือคล้ายกันจากเพื่อนร่วมงาน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประสบการณ์ตรงช่วยเพิ่มความเข้าใจและทำให้การบูรณาการ AI ในงานเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม การยอมรับนี้กลับขัดแย้งกับขาดแนวทางและการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากผู้ว่าจ้าง ซึ่งบ่งชี้ว่าสิ่งสำคัญคือองค์กรต้องปรับเปลี่ยนนโยบายของตน นักเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในที่ทำงานและจริยธรรมของ AI เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนานโยบายที่สามารถปรับตัวให้ทันกับความก้าวหน้าของ AI ขณะนี้ที่ generative AI มีความซับซ้อนมากขึ้นและฝังแน่นอยู่ในบทบาทงาน องค์กรต้องสร้างสมดุลระหว่างการปกป้องข้อมูลสำคัญและการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การส่งเสริมการสนทนาเปิดเผยและความร่วมมือเกี่ยวกับการใช้ AI จะช่วยลดความลับและความตึงเครียดระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร นโยบาย AI ที่ชัดเจนและสื่อสารได้ดีจะช่วยให้พนักงานใช้งานเครื่องมือเหล่านี้อย่างรับผิดชอบและมั่นใจ นโยบายอาจกำหนดให้ใช้ AI จากเครื่องมือที่ได้รับอนุญาต ระบุกรณีการใช้งานที่ยอมรับได้ มีการฝึกอบรมด้านความเป็นส่วนตัวและจริยธรรมของข้อมูล รวมทั้งจัดช่องทางรายงานข้อกังวลเกี่ยวกับ AI การสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสและความไว้ใจ จะช่วยให้บริษัทใช้ประโยชน์จาก AI ได้เต็มที่โดยยังลดความเสี่ยง การเพิ่มขึ้นของ AI สร้างบทบาทสำคัญในงานออฟฟิศสมัยใหม่ ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายและโอกาส ขณะนี้พนักงานใช้ AI ในงานต่างๆ เช่น การร่างข้อความ การเขียนโค้ด และการวิเคราะห์ข้อมูลมากขึ้น ทำให้เส้นแบ่งระหว่างการใช้งานที่ได้รับอนุญาตและผิดกฎหมายเริ่มไม่ชัดเจน เจ้าของงานที่เตรียมตัวและจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ดี จะสามารถดึงดูดและรักษาบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพงาน และรักษาความสามารถในการแข่งขันในยุคเทคโนโลยี โดยสรุป การศึกษาของ Ivanti เน้นย้ำให้เห็นถึงการใช้งาน AI สร้างสรรค์อย่างลับๆ ในกลุ่มพนักงานอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่บริษัทควรปรับปรุงและชัดเจนเกี่ยวกับนโยบาย AI ส่งเสริมความเปิดเผยเกี่ยวกับเครื่องมือ AI และให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ การทำเช่นนี้จะช่วยบรรเทาความกังวลของพนักงาน ลดการใช้ AI ที่ซ่อนเร้น และทำให้การบูรณาการ AI มีประสิทธิภาพและจริยธรรมมากขึ้นในกิจกรรมธุรกิจประจำวัน



Brief news summary

การศึกษาล่าสุดจาก Ivanti พบว่า ผู้ใช้ในออฟฟิศร้อยละ 42 ใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ เช่น ChatGPT โดยหนึ่งในสามของพวกเขาซ่อนการใช้งานนี้จากนายจ้าง ซึ่งเป็นแนวทางที่เรียกว่าการใช้ “ shadow AI” ซึ่งเกิดจากนโยบายที่ไม่ชัดเจน ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว และพนักงานที่มองหาแรงจูงใจทางการแข่งขัน การนำ AI เข้ามาใช้งานในตอนแรกเผชิญกับการตีตราและความกลัวด้านความปลอดภัย ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างการกระทำของพนักงานกับกฎระเบียบขององค์กร ผู้ใช้งานบ่อยครั้งจะแสดงความยอมรับในการใช้ AI ของเพื่อนร่วมงานมากขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่สอดคล้องในนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้มีแนวทางปฏิบัติในที่ทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความปลอดภัย การส่งเสริมความโปร่งใสและการอบรมด้าน AI อย่างรับผิดชอบสามารถลดการลับๆ ล่อๆ ช่วยเสริมพลังให้พนักงาน และช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดการความเสี่ยงต่างๆ เนื่องจาก AI กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานต่างๆ เช่น การร่างเอกสาร การเขียนโค้ด และการวิเคราะห์ การอัปเดตนโยบายจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความสามารถในการแข่งขัน ความเชื่อมั่น และการบูรณาการด้านจริยธรรมในที่ทำงาน
Business on autopilot

AI-powered Lead Generation in Social Media
and Search Engines

Let AI take control and automatically generate leads for you!

I'm your Content Manager, ready to handle your first test assignment

Language

Content Maker

Our unique Content Maker allows you to create an SEO article, social media posts, and a video based on the information presented in the article

news image

Last news

The Best for your Business

Learn how AI can help your business.
Let’s talk!

May 31, 2025, 1:33 a.m.

ปัญญาประดิษฐ์ในยานยนต์อัตโนมัติ: ความก้าวหน้าและควา…

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเป็นเสาหลักในการพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ ซึ่งทำให้รถขับเองสามารถนำทางในสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนและตัดสินใจเองได้อย่างสำคัญ โดยพื้นฐานแล้วเป็นการพลิกโฉมระบบขนส่งอย่างสิ้นเชิง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นก้าวสำคัญในการนำ AI เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ พร้อมกับทำให้ความจริงของการขนส่งแบบเต็มรูปแบบโดยอัตโนมัติใกล้เข้ามา อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคที่ต้องก้าวข้ามเพื่อให้ AI สามารถใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในสาขานี้ ข้อได้เปรียบหลักของ AI ในรถยนต์อัจฉริยะคือความปลอดภัยที่ดีขึ้น โดยใช้เซ็นเซอร์ขั้นสูง การเรียนรู้ของเครื่อง และการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ รถยนต์ที่ขับด้วย AI สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวาง การพยากรณ์พฤติกรรมจราจร และตอบสนองต่อสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์ ความสามารถนี้ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากข้อผิดพลาดของมนุษย์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุจราจรทั่วโลก AI ยังสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เช่น สภาพอากาศที่เลวร้าย หรือความหนาแน่นของจราจรที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งของระบบอัตโนมัติเหล่านี้ การเพิ่มประสิทธิภาพเป็นอีกหนึ่งการสนับสนุนสำคัญของ AI รถยนต์อัจฉริยะสามารถปรับเส้นทางให้เหมาะสม เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง และเพิ่มความคล่องตัวของจราจร ด้วยกลยุทธ์การขับขี่ที่ประสานกัน ซึ่งนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการขนส่ง นอกจากนี้ การสื่อสารระหว่างรถกับรถ (V2V) และระหว่างรถกับโครงสร้างพื้นฐาน (V2I) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังเป็นแนวทางสำหรับเครือข่ายอัจฉริยะที่สามารถปรับตัวตามสภาพจริงแบบไดนามิก เพื่อพัฒนาความคล่องตัวและบรรเทาการจราจร อย่างไรก็ตาม การนำ AI มาใช้ในรถยนต์อัตโนมัติยังเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ กรอบกฎหมายและระเบียบข้อบังคับยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา เพราะรัฐบาลทั่วโลกพยายามสมดุลระหว่างความปลอดภัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการใช้งานอย่างแพร่หลาย การยอมรับของประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยความไว้วางใจถูกขัดขวางจากข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความปลอดภัยไซเบอร์ และปัญหาทางจริยธรรมที่ระบบอัตโนมัติอาจต้องเผชิญ การสื่อสารอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับความสามารถ ข้อจำกัด และมาตรการความปลอดภัยเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังคงมีความท้าทายทางเทคนิคอยู่ เช่น ระบบรถอัตโนมัติจะต้องรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย ตั้งแต่สภาพแวดล้อมเมืองที่ซับซ้อน ไปจนถึงสภาพอากาศรุนแรง และสิ่งกีดขวางกะทันหัน ถึงแม้ AI จะก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว การสร้างความสามารถในการรับรู้ การตัดสินใจ และการปรับตัวแบบมนุษย์ก็ยังเป็นเรื่องยาก การพัฒนาที่ต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ การวิเคราะห์ข้อมูล และการออกแบบอัลกอริทึมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าการวิจัยระหว่างสาขาอย่างต่อเนื่องและความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ นักพัฒนาเทคโนโลยี นักกำหนดนโยบาย และวงการวิชาการเป็นกุญแจสำคัญที่จะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ ความร่วมมือดังกล่าวมีความสำคัญสำหรับการส่งเสริมนวัตกรรมและการกำหนดมาตรฐานที่รับรองความปลอดภัยและความสามารถในการเชื่อมต่อ เช่นเดียวกับการเน้นพัฒนาความแข็งแกร่งของ AI กรอบจริยธรรม และโมเดลกฎระเบียบ ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของ AI ในด้านการขนส่งอัจฉริยะ โดยรวมแล้ว AI เป็นหัวใจสำคัญของวิวัฒนาการรถยนต์อัจฉริยะ แปลงโฉมการขนส่งโดยอนุญาตให้ดำเนินการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอิสระ แม้จะมีความก้าวหน้าที่สำคัญ การใช้ประโยชน์จาก AI อย่างเต็มที่ยังคงต้องรับมือกับด้านกฎหมาย สังคม และเทคนิคอย่างต่อเนื่อง งานวิจัยที่ยั่งยืน การร่วมมือ และความเข้าใจจากสาธารณชนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้บรรลุอนาคตที่รถอัจฉริยะเป็นที่ไว้วางใจและกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนที่ระดับโลกอย่างแพร่หลาย

May 31, 2025, 1:25 a.m.

ริปเปิลแถลงข้อเท็จจริงสำคัญเกี่ยวกับบล็อกเชนเปลี่ยนแ…

โพสต์ล่าสุดในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X, Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple ยักษ์ใหญ่บล็อกเชนจากซานฟรานซิสโก กล่าวว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังเปลี่ยนแปลงวงการการเงิน Ripple กำลังปฏิวัติการเงินและการชำระเงิน โพสต์นี้เน้นย้ำบทบาทของ Ripple ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่บล็อกเชนสร้างขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ด้านการเงินเท่านั้น: "บล็อกเชนกำลังเปลี่ยนแปลงการเงิน

May 31, 2025, midnight

วันลงนาม Sports ทำข้อตกลงสุดท้ายกับ BlockchAIn Digit…

Signing Day Sports (SGN) ได้ประกาศข้อตกลงการควบรวมกิจการที่แน่นอนเพื่อเข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 100% ของ One Blockchain ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นด้านการขุดเหรียญคริปโต, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), และการโฮสต์ข้อมูล HPC โดยมีแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า 200 เมกะวัตต์ในสถานีในเซาท์แคโรไลนาและเท็กซัส การทำธุรกรรมนี้ ซึ่งเปิดเผยครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2025 ต่อมามาจากจดหมายแสดงเจตจำนงที่ไม่ผูกพันก่อนหน้านี้ การเข้าซื้อกิจการจะถูกจัดโครงสร้างผ่านบริษัทโฮลดิ้งชื่อ BlockchAIn Digital Infrastructure (BlockchAIn DI) ส่งผลให้ทั้ง Signing Day Sports และ One Blockchain กลายเป็นบริษัทย่อยของกัน และหลังจากเสร็จสิ้นการทำธุรกรรม คาดว่าบริษัทรวมจะจดทะเบียนใน NYSE American Signing Day Sports จะไม่จ่ายเงินสดให้กับ One Blockchain หรือผู้ถือหลักทรัพย์ของบริษัท โดยพิจารณาจากหุ้นสามัญของ PubCo มูลค่าประมาณ 215 ล้านดอลลาร์ ณ เวลาปิดดีล ซึ่งขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนและมูลค่าหุ้นแบบควรเข้าร่วม (diluted share value) อยู่ที่ 5

May 30, 2025, 11:52 p.m.

ปัญญาประดิษฐ์และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ: ทำนายแนวโ…

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยช่วยปรับปรุงความแม่นยำของโมเดลสิ่งแวดล้อมอย่างมาก และเมื่อความเร่งด่วนในการเข้าใจและบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเพิ่มมากขึ้น ความสามารถของ AI ในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากและซับซ้อน เปิดเส้นทางใหม่ในการวิจัยและแนวทางแก้ปัญหาเพื่อการดำเนินการจริง ด้วยอัลกอริทึมขั้นสูง AI ระบุรูปแบบซับซ้อนในข้อมูลสิ่งแวดล้อม ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำนายผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้อย่างแม่นยำ การพัฒนานี้จึงมีความสำคัญทั้งต่อการเพิ่มพูนความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการวางแผนกลยุทธ์การบรรเทาทั้งในด้านการลดผลกระทบและการปรับตัว การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนำมาซึ่งภัยคุกคามซับซ้อนที่มีผลกระทบในหลายด้าน ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม การทำนายล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขีดและการเพิ่มของระดับน้ำทะเลจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างนโยบายที่ลดความเสียหายและเสริมสร้างความสามารถในการรองรับ AI สามารถวิเคราะห์ตัวแปรสภาพอากาศผ่านการเรียนรู้ของเครื่อง ซึ่งช่วยจับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนที่วิธีการแบบเดิมอาจพลาดหรือประมวลผลช้าเกินไป ตัวอย่างที่สำคัญคือการพยากรณ์อากาศสุดขีด เช่น พายุเฮอริเคน น้ำท่วม ความร้อนจัด และภัยแล้ง ซึ่งสร้างผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน โมเดล AI ที่ฝึกจากข้อมูลในอดีตและข้อมูลเรียลไทม์สามารถตรวจจับรูปแบบที่กำลังเกิดขึ้น ทำให้สามารถแจ้งเตือนล่วงหน้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้หน่วยงานฉุกเฉินและรัฐบาลลดจำนวนผู้เสียชีวิตและความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้ นอกเหนือจากเหตุการณ์สภาพอากาศโดยตรงแล้ว AI ยังมีบทบาทสำคัญในการจำลองการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เช่น การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อเมืองชายฝั่งและระบบนิเวศ โดยเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดน้ำท่วม การกัดเซาะ และการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย โมเดลแบบเดิมมักมีปัญหาในการจัดการกับปัจจัยที่ซับซ้อนและหลากหลาย เช่น การละลายของน้ำแข็ง กระแสน้ำในมหาสมุทร และการเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศ ซึ่ง AI สามารถบูรณาการข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความแม่นยำในการพยากรณ์ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ความถูกต้องนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการวางแผนเมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการบริหารจัดการภัยพิบัติ ที่สอดคล้องกับสภาพในอนาคต AI ยังช่วยเสริมสร้างงานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม โดยการเปิดเผยแนวโน้มและความสัมพันธ์ทางสาเหตุในข้อมูลสิ่งแวดล้อม รวมถึงการวิเคราะห์ภาพจากดาวเทียม ค่าตรวจวัดจากเซนเซอร์ และบันทึกข้อมูลทางการสังเกต ซึ่งช่วยประเมินผลการอนุรักษ์และระบุพื้นที่สำคัญสำหรับการแทรกแซง นอกจากนี้ยังสนับสนุนการกำหนดนโยบายด้านสภาพอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ นักนโยบายและชุมชนได้รับประโยชน์จากโมเดลที่พัฒนาด้วย AI ผ่านการทำนายที่ดีขึ้นและข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้สามารถปรับตัวได้ตรงจุด เช่น การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทาน การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าที่ก้าวล้ำ นอกจากนี้ AI ยังอำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์สถานการณ์ ซึ่งช่วยประเมินผลลัพธ์ของนโยบายและการลงทุน โดยสมดุลความเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม การบูรณาการ AI เข้ากับวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเป็นแนวหน้าที่น่าตื่นเต้นในการต่อสู้กับปัญหาด้านภูมิอากาศโลก แม้ว่า AI จะไม่ใช่คำตอบทุกอย่าง แต่ก็เป็นเครื่องมือเสริมสำหรับงานวิจัยแบบดั้งเดิม ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลและความแม่นยำของโมเดลที่เพิ่มขึ้น ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล การใช้งาน AI อย่างเต็มศักยภาพจำเป็นต้องมีความร่วมมือในหลายสาขาวิชา เช่น วิทยาการคอมพิวเตอร์ ภูมิอากาศวิทยา ชีววิทยา และสังคมศาสตร์ เพื่อให้การใช้ AI เป็นไปอย่างรับผิดชอบและมีจริยธรรมในที่สุด ในอนาคต ความก้าวหน้าของ AI ร่วมกับฐานข้อมูลการตรวจจับทั่วโลกที่ขยายตัว จะช่วยให้โมเดลสภาพอากาศมีความลึกซึ้งและครอบคลุมยิ่งขึ้น การลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัย การศึกษาแบบบูรณาการ และการแบ่งปันข้อมูลอย่างเปิดเผย จะเป็นแรงขับเคลื่อนความก้าวหน้า ในขณะที่วิกฤตด้านสภาพอากาศทวีความรุนแรง การใช้ประโยชน์จาก AI จึงเป็นความหวังในการสร้างสังคมที่มีความสามารถในการรองรับและบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน โดยสรุป AI มีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นในวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยช่วยยกระดับความแม่นยำและขีดความสามารถของการสร้างแบบจำลองสิ่งแวดล้อม การใช้งานด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การทำนายสภาพอากาศสุดขีดและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ไปจนถึงการเปิดเผยแนวโน้มสิ่งแวดล้อม ช่วยให้เข้าใจและวางกลยุทธ์การบรรเทาและปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยนวัตกรรมและความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง AI จึงเป็นเครื่องมือทรงพลังในการเข้าใจและจัดการกับความซับซ้อนของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมสร้างความสามารถของนักนโยบายและชุมชนในการตอบสนองต่อความท้าทายด้านสภาพอากาศอย่างมีประสิทธิผล

May 30, 2025, 10:32 p.m.

กระทรวงไอที ร่วมกับ Binance Academy เปิดตัวโครงการ…

ในความพยายามที่เปลี่ยนแปลงวงการเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านดิจิทัลและเตรียมความพร้อมสำหรับทักษะในอนาคต Binance Academy ได้ร่วมมือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของปากีสถาน (MoITT) เพื่อเปิดตัวโครงการการศึกษาบล็อกเชนระดับประเทศ โครงการนี้มีเป้าหมายในการฝึกอบรมครูมหาวิทยาลัยจำนวน 300 คน และสร้างผลกระทบต่อผู้เรียนกว่า 80,000 คนในกว่า 20 สถาบันภายในปี ค.ศ.

May 30, 2025, 10:15 p.m.

ปัญญาประดิษฐ์ด้านการเงิน: การซื้อขายด้วยอัลกอริทึมแล…

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงวงการการเงินอย่างมากมาย โดยนำเสนอวิธีการใหม่ๆ เช่น การเทรดแบบอัลกอริทึมและการวิเคราะห์เชิงทำนาย ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าการดำเนินงานในตลาดและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนแบบดั้งเดิม อัลกอริทึมของ AI วิเคราะห์ข้อมูลตลาดจำนวนมากในเวลาเรียลไทม์ ซึ่งมากกว่าความสามารถของมนุษย์ ทำให้สามารถระบุแนวโน้มและรูปแบบที่ละเอียดอ่อกว่าที่นักวิเคราะห์ธรรมดาจะมองเห็นได้ นั่นช่วยให้สามารถตัดสินใจซื้อขายที่รวดเร็วและอิงข้อมูล ด้วยความแม่นยำสูงสุด ส่งเสริมให้สถาบันการเงินเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด ลดต้นทุน และได้รับเปรียบเสมือนข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว การเทรดแบบอัลกอริทึม ซึ่งรู้จักกันในชื่อการเทรดอัตโนมัติหรือการเทรดแบบกล่องดำ พึ่งพาระบบ AI อย่างมากในการสั่งซื้อขายตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ล่วงหน้าซึ่งได้มาจากโมเดลคณิตศาสตร์ซับซ้อนและข้อมูลในอดีต ระบบเหล่านี้ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดในทันทีเพื่อคว้าโอกาสชั่วคราวที่ต้องการการดำเนินการทันที ความคล่องตัวนี้ทำให้ประสิทธิภาพตลาดดีขึ้นโดยลดส่วนต่างราคาซื้อและขาย และเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนด้วยราคาที่คงที่และการดำเนินการเทรดที่รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ AI ยังใช้การวิเคราะห์เชิงทำนายโดยใช้การเรียนรู้ของเครื่องในการพยากรณ์การเคลื่อนไหวของตลาด ราคาสินทรัพย์ และสัญญาณเศรษฐกิจที่มีความแม่นยำเพิ่มขึ้น ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอและเทรดเดอร์ในการจัดการความเสี่ยง การจัดสรรสินทรัพย์ และวางแผนกลยุทธ์ การวิเคราะห์เชิงทำนายยังช่วยเสริมสร้างบริการทางการเงินส่วนบุคคลด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าและคำแนะนำในการลงทุนที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม บทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI ในการเงินก่อให้เกิดความท้าทายและความเสี่ยง สำคัญคือความผันผวนของตลาดที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเร็วและปริมาณของการเทรดด้วย AI อาจทำให้ราคามีการเปลี่ยนแปลงรุนแรงในช่วงเวลาที่ตลาดเครียด ซึ่งอาจนำไปสู่การขายหมู่หรือฟองสบู่ได้ นอกจากนี้ความเป็นอัตโนมัติและเชื่อมโยงกันของระบบเหล่านี้ยังเสี่ยงต่อการล้มเหลวแบบกลุ่มหรือภัยพิบัติระดับระบบที่อาจกระทบเสถียรภาพของระบบการเงินโดยรวมได้ นอกจากนั้น ความโปร่งใสของโมเดล AI หลายแบบ โดยเฉพาะเทคนิค Deep Learning ยังเป็นปัญหาด้านการกำกับดูแลและจริยธรรม การรักษาความโปร่งใส ความยุติธรรม และความรับผิดชอบในการตัดสินใจทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI เป็นสิ่งสำคัญต่อความไว้วางใจของนักลงทุนและความถูกต้องของตลาด ยังมีความกังวลว่า AI อาจเสริมสร้างอคติที่ฝังอยู่ในข้อมูลในอดีต หรือถูกใช้ในกิจกรรมการค้าที่บิดเบือน เพื่อรับมือกับความซับซ้อนเหล่านี้ ผู้กำกับดูแลการเงินทั่วโลกจึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบทบาทของ AI ในตลาด พวกเขากำลังสร้างกรอบแนวทางและแนวปฏิบัติที่สนับสนุนการนวัตกรรม โดยยังคงคุ้มครองเสถียรภาพทางการเงินและนักลงทุน เป้าหมายสำคัญของกฎหมายควบคุมได้แก่ การสร้างมาตรฐานการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวดสำหรับระบบ AI การเพิ่มความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงการสร้างกลไกเพื่อตรวจสอบและลดความเสี่ยงในระดับระบบจากการเทรดแบบอัลกอริทึม ความร่วมมือด้านกฎระเบียบในระดับนานาชาติ ก็เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงธรรมชาติสากลของเทคโนโลยี AI และตลาดการเงิน ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นที่การแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด การปรับให้กฎระเบียบเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และการประสานการตอบสนองต่อวิกฤติทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจาก AI อุตสาหกรรมการเงินตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ หลายองค์กรลงทุนในแนวทางปฏิบัติด้านจริยธรรมของ AI ที่มีการควบคุมการตรวจสอบโดยมนุษย์ และบังคับใช้การทดสอบและการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าระบบ AI ทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือและเป็นธรรม รวมถึงให้ความสำคัญกับการอบรมบุคลากรให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยสรุปแล้ว ปัญญาประดิษฐ์ได้เปลี่ยนแปลงวงการการเงินอย่างไม่อาจปฏิเสธ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถด้านวิเคราะห์ แต่ก็ยังนำมาซึ่งความเสี่ยงและความท้าทายด้านกฎระเบียบ การสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเสถียรภาพของตลาดจึงต้องการความพยายามร่วมกันจากอุตสาหกรรม ผู้ควบคุมกฎหมาย และนโยบาย เมื่อ AI พัฒนาต่อไป ผลกระทบของมันต่อการเงินก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องและการบริหารจัดการที่ปรับตัวได้จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสุขภาพและความยุติธรรมของตลาดการเงินทั่วโลก

May 30, 2025, 8:59 p.m.

ผลิตภัณฑ์บล็อกเชน Cardano ใหม่สนับสนุน UNHCR

นักพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลและพันธมิตรเชื่อว่าสถาปัตยกรรมผลิตภัณฑ์นี้สามารถนำไปใช้กับการเงินในภาคส่วนอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับผลกระทบได้ มูลนิธิ Cardano และสวิสเซอร์แลนด์เพื่อ UNHCR ได้ร่วมมือกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แลกเปลี่ยนซื้อขาย (ETP) ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมรางวัลจากการลงทุนในกองทุนบล็อกเชนเข้าสู่วงเงินทุนต่อเนื่องสำหรับ UNHCR ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ โดยมีศักยภาพในการสร้างรายได้สูงสุดถึง 2 ล้านดอลลาร์ (€1

All news