ทั่วสหรัฐอเมริกา รัฐต่างๆ กำลังเพิ่มความพยายามในการควบคุมเครื่องเอทีเอ็มคริปโตเคอร์เรนซี ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของคดีฉ้อโกง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มุ่งเป้าไปยังผู้สูงอายุ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเครื่องเหล่านี้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลงเงินสดเป็นคริปโตเคอร์เรนซีและกลับกัน ก็ได้ดึงดูดเหล่ scammers ซึ่งใช้อรรถประโยชน์ของความไม่สามารถย้อนกลับได้ของธุรกรรมคริปโต ทำให้เกิดความเสียหายทางการเงินอย่างรุนแรงแก่ผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มที่น่ากังวลนี้ บางรัฐ เช่น อิลลินอยส์ โร๊ดไอแลนด์ เวอร์มอนต์ เนแบรสกา และแอริโซนา ได้ออกกฎหมายใหม่ เพื่อเสริมสร้างความเข้มงวดในการดูแลเครื่องเอทีเอ็มคริปโต เคอร์เรนซี กฎระเบียบบางอย่าง เช่น การจำกัดจำนวนธุรกรรมต่อวัน การแสดงคำเตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกงบนเครื่อง และการจัดตั้งระบบใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบการ การดำเนินการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อยับยั้งกิจกรรมฉ้อโกงและป้องกันผู้บริโภคจากการถูกหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับเคาน์เตอร์เหล่านี้ บางเมืองก็เดินหน้าออกมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นโดยการห้ามใช้เครื่องคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมด เช่น ในสโปเคน ซึ่งได้สั่งห้ามเครื่องเหล่านี้ เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของพวกเขาในการส่งเสริมการฉ้อโกง การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังที่เมืองต่างๆ ให้ความสำคัญกับปัญหานี้และแสดงถึงความไม่สบายใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับช่องโหว่ในระบบนิเวศคริปโตที่ขยายตัวขึ้น ในระดับรัฐบาลกลาง หน่วยงานต่างๆ ก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับเครื่องเอทีเอ็มคริปโต ทั้งคณะกรรมการค้าระหว่างสหรัฐ (FTC) และสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) รายงานว่ามีการสูญเสียจากการฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับเคาน์เตอร์เหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผลการศึกษาเหล่านี้สอดคล้องกับความกังวลขององค์กรสนับสนุนผู้บริโภค โดยเฉพาะ AARP ซึ่งให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความคุ้มครองให้กับผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเหล่าแฮกเกอร์ ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวม Bitcoin ได้แสดงให้เห็นถึงความเสถียรในระดับหนึ่ง แม้จะมีความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงความสัมพันธ์กับอิหร่าน ความเสถียรนี้เป็นสัญญาณของความสามารถในการรองรับของสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำในภาวะไม่แน่นอนของโลก พร้อมกันนี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่สำคัญ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ถอด “ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง” ออกจากแนวทางการประเมินธนาคาร ซึ่งถือเป็นการถอยจากการกำกับดูแลที่กว้างขวางขึ้น ที่เคยได้รับคำวิจารณ์อย่างหนักในช่วงยุทธศาสตร์บังคับใช้ที่รู้จักกันในชื่อ “Operation Chokepoint 2
เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงวงการศึกษาในสหรัฐอเมริาอย่างรวดเร็ว ให้โอกาสครูในการเสริมสร้างประสิทธิภาพวิธีการสอนและพัฒนาสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว ครูทั่วประเทศหันมาใช้เทคโนโลยี AI เช่น ChatGPT อย่างแพร่หลาย เพื่อพัฒนาหลักสูตรที่น่าสนใจมากขึ้น ช่วยในการให้คะแนน และลดภาระงานด้านบริหารที่มักใช้เวลามาก งานสำรวจระดับชาติเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยให้เห็นการใช้งาน AI ในโรงเรียนอย่างแพร่หลาย โดย 60% ของครูโรงเรียนรัฐบาลระดับ K-12 เคยใช้งาน AI ในช่วงปีการศึกษาที่ผ่านมา แนวโน้มนี้เป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่งในกลุ่มครูมัธยมปลายและครูที่เพิ่งเริ่มต้นในเส้นทางอาชีพ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและการพึ่งพา AI ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มครูรุ่นใหม่ ครูประมาณว่าการใช้เครื่องมือ AI ช่วยประหยัดเวลาได้ประมาณ 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาที่สำคัญและช่วยต่อสู้กับความเมื่อยล้าและความเครียดอย่างต่อเนื่องของครู ด้วยการอัตโนมัติภาระงานที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน AI ช่วยให้ครูสามารถมุ่งเน้นและใช้พลังงานกับภารกิจหลักของตนคือการสอนนักเรียน ข้อได้เปรียบสำคัญอย่างหนึ่งที่ครูชื่นชมคือความสามารถของ AI ในการเสริมสร้างความน่าสนใจและความมีส่วนร่วมของนักเรียน AI ช่วยปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับสไตล์และความต้องการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ส่งเสริมความครอบคลุมและความเท่าเทียมในห้องเรียน นอกจากนี้ AI ยังสามารถให้คำติชมส่วนบุคคลโดยการวิเคราะห์ผลงานของนักเรียนอย่างรวดเร็วและให้ข้อคิดเห็นที่ละเอียดอ่อน ซึ่งช่วยให้ครูปรับการสอนให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษากล่าวเตือนให้ระวังไม่ให้ขึ้นอยู่กับ AI มากเกินไป เน้นว่าสารสนเทศเหล่านี้ไม่ควรทดแทนการตัดสินใจของมนุษย์ โดยเฉพาะในสถานการณ์การให้คะแนนที่ซับซ้อน ซึ่งต้องพิจารณาทั้งความสร้างสรรค์ ความคิดวิพากษ์ และปัจจัยเชิงอัตวิสัยอื่น ๆ ซึ่ง AI อาจไม่สามารถเข้าใจอย่างสมบูรณ์ได้ เพื่อตอบสนองต่อการนำ AI มาใช้ที่เพิ่มขึ้น หลายรัฐในประเทศได้ออกแนวทางและข้อกำหนดเพื่อควบคุมการบูรณาการ AI อย่างเหมาะสมในสภาพแวดล้อมการศึกษา ข้อบังคับเหล่านี้มุ่งเน้นความเป็นธรรมในการใช้งานและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความสมบูรณ์ทางวิชาการ ควบคู่ไปกับมาตรการกฎระเบียบ ครูจำนวนมากก็เป็นกังวลว่านักเรียนอาจใช้งาน AI อย่างเกินขอบเขต ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และความสร้างสรรค์ของนักเรียน เพื่อคลี่คลายความกังวลเหล่านี้ ครูเรียกร้องให้มีโปรแกรมฝึกอบรมที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้ครูสามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบ การบูรณาการ AI อย่างระมัดระวังและเลือกเฟ้นอย่างรอบคอบ พร้อมด้วยการดูแลเอาใจใส่ จะช่วยให้ครูสามารถแนะนำให้นักเรียนใช้งาน AI เป็นเครื่องมือที่ร่วมมือกันและไม่ใช่ทางลัด ซึ่งส่งเสริมการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีความรับผิดชอบ โดยรวมแล้ว ถึงแม้ปัญญาประดิษฐ์จะเปลี่ยนแปลงการศึกษาด้วยการนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ครูก็เน้นความจำเป็นในการนำมาใช้อย่างรอบคอบและมีกลยุทธ์ พวกเขาเรียกร้องให้ AI ช่วยเสริมสร้างวิธีการสอนแบบดั้งเดิม ไม่ใช่แทนที่ เพื่อให้เทคโนโลยีเป็นพันธมิตรที่มีคุณค่าในการส่งเสริมการเติบโตและการเรียนรู้ของนักเรียน แทนที่จะละทิ้งองค์ประกอบสำคัญของมนุษย์ในวงการศึกษา
หลังจากความพยายามหลายครั้งตลอดหลายปี รัฐสภาสหรัฐอเมริกาขณะนี้ใกล้ที่จะออกกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะสำหรับสกุลเงินดิจิทัลเสถียร (stablecoins) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อรักษามูลค่าให้เสถียร โดยมักจะผูกกับสกุลเงิน Fiat เช่น ดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินดิจิทัลเสถียรได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องจากสามารถรวมข้อดีของคริปโตเคอเรนซี—เช่น การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำ—ร่วมกับการหลีกเลี่ยงความผันผวนสูงที่พบในสินทรัพย์เช่น Bitcoin หรือ Ethereum ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สกุลเงินดิจิทัลเสถียรทำหน้าที่หลักเป็นเครื่องมือสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ในการเคลื่อนย้ายทุนอย่างรวดเร็วภายในระบบนิเวศของคริปโตเคอเรนซี โดยไม่ต้องเปลี่ยนกลับเป็นสกุลเงินดั้งเดิม บทบาทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการความเสี่ยง สภาพคล่อง และประสิทธิภาพในการดำเนินงานในตลาดการเงินแบบกระจายอำนาจ อย่างไรก็ดี นักสนับสนุนจำนวนมากมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเสถียรจะมีบทบาทที่ใหญ่ขึ้นในกิจกรรมทางการเงินในชีวิตประจำวัน การใช้งานที่ขยายตัวเหล่านี้อาจรวมถึงการโอนเงินระหว่างประเทศ การชำระเงินในธุรกิจค้าปลีก การทำธุรกรรมข้ามพรมแดน และแม้แต่การออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDCs) การนำไปใช้ในด้านเหล่านี้มีศักยภาพที่จะปฏิรูประบบการเงินโดยลดต้นทุน เร่งความเร็วของการทำธุรกรรม และเสริมสร้างความครอบคลุมทางด้านการเงินให้แก่กลุ่มชนที่ไม่ได้รับการเข้าถึงบริการทางการเงิน ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญและผลกระทบที่เพิ่มขึ้น ฝ่ายนิติบัญญัติและหน่วยงานกำกับดูแลจึงได้พยายามจัดตั้งกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ความพยายามทางกฎหมายก่อนหน้านี้ประสบกับความท้าทาย เนื่องจากมุมมองที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับวิธีการสมดุลนวัตกรรมกับการคุ้มครองผู้บริโภคและเสถียรภาพทางการเงิน ในปัจจุบัน มีร่างกฎหมายต่าง ๆ ที่มุ่งสร้างระบบกำกับดูแลระดับรัฐบาลกลางสำหรับผู้ออกสกุลเงินดิจิทัลเสถียรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หนึ่งในข้อเสนอที่สำคัญคือ พระราชบัญญัติการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัลเสถียรที่นวัตกรรมและเป็นประโยชน์ (GENIUS Act) ซึ่งจะบังคับใช้ความโปร่งใส การสนับสนุนโดยเงินสำรอง ข้อกำหนดด้านทุน และการบูรณาการการกำกับดูแลภายในหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงการคลังและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ความริเริ่มเหล่านี้สะท้อนความเห็นที่เพิ่มขึ้นว่าสกุลเงินดิจิทัลเสถียรจำเป็นต้องมีกฎระเบียบเพื่อบรรเทาความเสี่ยงเชิงระบบ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี กรอบการกำกับดูแลนี้จะกำหนดให้สกุลเงินดิจิทัลเสถียรต้องสนับสนุนโดยสินทรัพย์มีสภาพคล่อง เข้าสู่การตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ และปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (CTF) เป้าหมายคือการสร้างระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลเสถียรที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ ซึ่งปกป้องผู้บริโภคและระบบการเงินในวงกว้าง แม้จะมีข้อดี สกุลเงินดิจิทัลเสถียรก็สร้างความกังวล เช่น การใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินของก่อการร้าย และการหลีกเลี่ยงภาษี ลักษณะดิจิทัลและระดับโลกของพวกเขาทำให้การบังคับใช้กฎหมายซับซ้อน โดยเฉพาะในระดับนิติบุคคลหลายแห่ง ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าการควบคุมดูแลอย่างครอบคลุมและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด จะสามารถจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำมาตรการ AML ที่แข็งแกร่งและกระบวนการ Know Your Customer (KYC) มาประยุกต์ใช้พร้อมกับการตรวจสอบธุรกรรมด้วยเทคโนโลยีสามารถลดช่องว่างในการละเมิดกฎ นอกจากนี้ ความชัดเจนด้านกฎหมายยังคาดว่าจะกระตุ้นมาตรฐานในอุตสาหกรรม กระตุ้นนวัตกรรม และเสริมสร้างความไว้วางใจในสังคม กฎระเบียบที่ชัดเจนจะสนับสนุนให้สถาบันทางการเงินที่มีอยู่เดิมมีส่วนร่วมในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้สกุลเงินดิจิทัลเสถียรได้รับการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในระบบการเงินหลัก บทความนี้สำรวจความเสี่ยงทางการเงินผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเสถียร และวิธีที่กฎระเบียบที่คิดอย่างรอบคอบสามารถจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้ได้ รวมถึงประเมินผลกระทบที่กฎหมายควบคุมสกุลเงินดิจิทัลเสถียรจะมีต่ออนาคตของสกุลเงินดิจิทัลและบริการทางการเงินในวงกว้าง โดยสรุป เมื่อรัฐสภาเดินหน้าสรุปร่างกฎหมายสำหรับสกุลเงินดิจิทัลเสถียร ตัวแทนที่เกี่ยวข้องต้องสมดุลระหว่างส่งเสริมนวัตกรรมกับการรักษาความสมบูรณ์และความมั่นคงทางการเงิน กฎหมายที่มีประสิทธิภาพอาจทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำระดับโลกด้านกฎระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัล ส่งเสริมระบบการเงินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
Elon Musk นักธุรกิจคนสำคัญและผู้นำบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง ได้แสดงความไม่พอใจต่อผลการทำงานของแพลตฟอร์ม AI ของเขา Grok โดยเฉพาะในเรื่องการตอบคำถามที่เป็นประเด็นขัดแย้งหรือแตกแยก เขาได้กล่าวว่าผลลัพธ์ในปัจจุบันของ AI ไม่ตรงกับมาตรฐานหรือความชอบส่วนตัวของเขา จึงเป็นเหตุผลให้เขาเริ่มวางแผนฝึก AI ใหม่ การปรับปรุงนี้มีเป้าหมายเพื่อให้การตอบสนองของ Grok สอดคล้องกับมุมมองของ Musk มากขึ้น และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความไม่แม่นยำและแนวโน้มทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นเทรนด์ในวงกว้างและที่กำลังเติบโตของการพัฒนา AI ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างการตอบคำถามของ AI ให้สะท้อนอคติหรือความเชื่อส่วนตัวของบุคคลหรือกลุ่มความคิดเฉพาะเจาะจง แพลตฟอร์ม AI เช่น Grok สามารถสร้างคำตอบที่สมเหตุสมผลและสอดคล้องตามบริบทโดยการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก แต่ยังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความเป็นกลางและความถูกต้อง พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงอคติที่ไม่ได้ตั้งใจ ความตั้งใจของ Musk ที่จะปรับแต่งการตอบสนองของ Grok ให้เป็นส่วนตัวมากขึ้นสะท้อนให้เห็นบทสนทนาเกี่ยวกับจริยธรรมในวงการ AI ซึ่งมีการถกเถียงกันอยู่อย่างต่อเนื่อง นักวิจารณ์เตือนว่าการปรับแต่งผลลัพธ์ของ AI ให้ตรงกับอคติเฉพาะเจาะจงอาจเป็นภัยคุกคามต่อวัตถุประสงค์ ความน่าเชื่อถือ และความถูกต้องของระบบเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และการเรียนรู้ของเครื่องเตือนให้ระวังไม่ให้หัน AI ไปทางความคิดเพียงด้านเดียว เนื่องจากอาจเกิดผลลัพธ์เชิงลบ เช่น "ภาพหลอน" ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ AI ให้ข้อมูลที่ดูสมเหตุสมผลแต่มักเป็นข้อมูลเท็จหรือแต่งขึ้น ทำให้ความน่าเชื่อถือของ AI ในการให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล การปรับ Grok ให้สอดคล้องกับแนวความคิดเฉพาะทางอาจทำให้เกิดภาพหลอนมากขึ้น เพราะระบบอาจให้ความสำคัญกับการสร้างเรื่องราวให้สอดคล้องกันมากกว่าความถูกต้องตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างคำถามในด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการพัฒนา AI การมีอิทธิพลของมุมมองส่วนตัวในข้อมูลฝึกอบรมก็สร้างความสับสนระหว่างข้อเท็จจริงและอคติ ทำให้ผู้ใช้งานยากที่จะระบุเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ โครงการฝึกใหม่ของ Musk ยังเน้นให้เห็นถึงความตึงเครียดในระดับสังคมเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีในการกำหนดแนวคิดสาธารณะ ในขณะที่ AI กลายเป็นกลไกสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูล อิทธิพลของมันต่อความคิดเห็นสาธารณะก็เพิ่มขึ้นและแรงกดดันให้ปรับแต่งผลลัพธ์ของ AI ให้สอดคล้องกับท่าทีทางการเมืองหรือวัฒนธรรมบางกลุ่มสะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี จริยธรรม และอำนาจ ในภาคส่วนต่าง ๆ จึงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีแนวทางและมาตรฐานที่เข้มแข็งในการพัฒนาและใช้งาน AI เพื่อคุ้มครองความสมบูรณ์ของข้อมูล ตลอดจนเคารพความหลากหลายของมุมมอง การหาสมดุลระหว่างความเป็นส่วนตัวและความเป็นกลางยังคงเป็นความท้าทายสำคัญในยุคที่ AI เข้าสู่วงการอย่างรวดเร็ว ผลงานของ Musk กับ Grok เป็นตัวอย่างของความยากลำบากในการใช้ AI เพื่อบรรลุเป้าหมายส่วนตัวหรือองค์กร โดยไม่ละทิ้งความจริงและมาตรฐานด้านจริยธรรม สถานการณ์นี้เปิดโอกาสให้เกิดการถกเถียงอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการฝึกฝน AI และมาตรการป้องกันความเสี่ยงด้านอคติและข้อมูลเท็จ โดยสรุป ความไม่พอใจของ Elon Musk ต่อการจัดการของ Grok กับหัวข้อที่อ่อนไหว แสดงให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในวิวัฒนาการของ AI ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างการปรับแต่งพฤติกรรมของ AI กับการรักษาความถูกต้องและความเป็นกลาง ในอนาคต ความร่วมมือระหว่างนักพัฒนา ผู้ใช้งาน และนักกำหนดนโยบายจะเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างกรอบงานที่รับประกันความโปร่งใส ความยุติธรรม และความรับผิดชอบในแอปพลิเคชัน AI
เอลอน มัสก์ ได้แสดงความไม่พอใจต่อผลงานของแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ของเขา ซึ่งก็คือ Grok โดยเฉพาะในเรื่องของคำตอบที่เกี่ยวข้องกับคำถามที่มีความซับซ้อนหรือเป็นที่ถกเถียงกัน มัสก์ได้ชี้ให้เห็นว่าคำตอบของ Grok บางครั้งไม่ตรงกับความคาดหวังส่วนตัวของเขา ทำให้เขาต้องดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้ เขาเปิดเผยแผนที่จะฝึกอบรมโมเดล AI ที่อยู่เบื้องหลัง Grok ใหม่ เพื่อให้คำตอบของมันสอดคล้องกับความชอบของเขามากขึ้น การฝึกอบรมใหม่นี้มีเป้าหมายหลักในการแก้ไขความผิดพลาดในคำตอบและลดการเน้นความสำคัญต่อความถูกต้องทางการเมืองที่ Musk มองว่ามากเกินไป จุดประสงค์ของโครงการนี้คือการปรับแต่ง output ของ Grok ให้ตรงกับกรอบความคิดในแบบที่ Musk จินตนาการไว้ สถานการณ์นี้เป็นตัวอย่างของการถกเถียงที่กว้างขึ้น ซึ่งคือเรื่องที่เข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่องในชุมชนปัญญาประดิษฐ์และสาธารณชนเกี่ยวกับผลกระทบของอคติของมนุษย์ต่อพฤติกรรมของ AI โดยการพยายามเปลี่ยนแปลงคำตอบของ Grok ให้สะท้อนถึงค่านิยมและความเชื่อเฉพาะตัว การกระทำของ Musk จึงเน้นให้เห็นถึงความท้าทายในการสมดุลระหว่างการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบและเสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงความถูกต้องตามข้อเท็จจริง ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลที่อาจเกิดขึ้นจากการฝึก AI ในลักษณะเฉพาะเจาะจง เช่น หนักแน่นในเรื่องของการปรับแต่งผลลัพธ์ให้สอดคล้องกับมุมมองทางอุดมการณ์ ซึ่งอาจไม่ตั้งใจหรือจงใจเสริมสร้างอคติที่มีอยู่แล้วในระบบ เนื่องจากโมเดลภาษา AI เช่น Grok สร้างคำตอบบนฐานข้อมูลขนาดใหญ่และอัลกอริทึมที่ซับซ้อน จึงยังคงมีความเสี่ยงที่จะทำให้ความพยายามในการชี้นำ AI ไปในทิศทางที่ต้องการ อาจลดความหลากหลายของความคิดและทำลายความเป็นกลางของคำตอบ นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัญหาสำคัญของโมเดล AI สมัยใหม่คือการเกิด “ภาพหลอน” ซึ่งเป็นการที่ระบบสร้างผลลัพธ์ที่ดูเหมือนเป็นไปได้ แต่จริง ๆ แล้วผิดพลาดหรือบิดเบือน นักวิชาการเตือนว่าการเน้นให้ AI สอดคล้องกับความชอบส่วนบุคคลหรือแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความถูกต้องทางการเมืองผ่านการฝึกอบรมซ้ำอาจทำให้ปัญหานี้เลวร้ายลง การให้ความสำคัญกับการสอดคล้องกับค่านิยมบางอย่างมากกว่าความถูกต้องโดยไม่ลำเอียงอาจทำให้โมเดล AI มีแนวโน้มที่จะนำเสนอข้อมูลที่ผิดเป็นข้อเท็จจริงในรูปลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ กรณีของ Grok และการตัดสินใจของ Elon Musk ที่จะมีอิทธิพลโดยตรงต่อลักษณะการตอบสนองของ AI จึงสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านจริยธรรมและเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและกลั่นกรองเนื้อหาใน AI ซึ่งตั้งคำถามชัดเจนว่าใครเป็นผู้กำหนดมาตรฐานที่ยอมรับได้สำหรับการสื่อสารของ AI และการเลือกเหล่านี้ส่งผลต่อวาทกรรมสาธารณะอย่างไร เมื่อเทคโนโลยี AI ก้าวหน้าและถูกรวมเข้าไว้ในชีวิตประจำวัน ระบบความโปร่งใส ความถูกต้อง และความเป็นธรรมของเนื้อหาที่สร้างโดย AI ยังคงเป็นเรื่องสำคัญ สรุปก็คือ ความไม่พอใจของ Elon Musk ต่อการจัดการหัวข้อที่ละเอียดอ่อนของ Grok และแผนฝึกอบรมใหม่เพื่อให้ AI สอดคล้องกับมุมมองของเขา ย้ำให้เห็นถึงการถกเถียงเรื่องอคติ ความถูกต้อง และการควบคุมในปัญญาประดิษฐ์ แม้ว่าการปรับปรุงพฤติกรรม AI ให้ปลอดจากข้อผิดพลาดเป็นเป้าหมายที่มีคุณค่า การผลกระทบที่ไม่ตั้งใจ เช่น การเพิ่มการเกิดภาพหลอนและการจำกัดมุมมอง ยังคงแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนในการออกแบบและจัดการระบบ AI ชุมชน AI ทั้งหมดและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้อย่างรอบคอบ เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยี AI ที่น่าเชื่อถือและเป็นธรรมทั้งสิ้น
ปากีสถานได้ก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ด้วยการจัดตั้งสภาคริปโตปากีสถาน (PCC) สภาใหม่นี้มีหน้าที่ดูแลและส่งเสริมการเติบโตของเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วประเทศ การก่อตั้ง PCC เป็นช่วงเวลาสำคัญในแนวทางของปากีสถานต่อเศรษฐกิจดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติเชิงรุกของรัฐบาลในการบูรณาการเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าสู่โครงสร้างทางการเงินของประเทศ วัตถุประสงค์หลักของสภาคริปโตปากีสถานคือการทำหน้าที่เป็นองค์กรกำกับดูแลและให้คำปรึกษาที่จะมีอิทธิพลต่อการใช้งานคริปโตเคอร์เรนซีและแอปพลิเคชันบล็อกเชนในอนาคตทั่วประเทศ ขณะที่เทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งเป็นพื้นฐานของคริปโตเคอร์เรนซีเช่น Bitcoin และ Ethereum ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับระบบการเงินแบบดั้งเดิมทั่วโลก ปากีสถานพยายามสร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ครบถ้วนซึ่งสนับสนุนการนวัตกรรมควบคู่ไปกับการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Bitcoin และ Ethereum ให้ประโยชน์หลายประการ รวมถึงความโปร่งใส ความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการทำธุรกรรมทางการเงิน เจ้าหน้าที่ปากีสถานมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในหลายภาคส่วน นอกเหนือจากการเงิน เช่น สาธารณสุข การจัดการห่วงโซ่อุปทาน และบริการภาครัฐ สภาคริปโตปากีสถานจะมุ่งเน้นในการสร้างความตระหนักรู้และให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ ความพยายามของสภาน่าจะรวมถึงการจัดเวิร์กช็อป สัมมนา และความร่วมมือกับสถาบันทางการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนากำลังคนที่มีทักษะในการผลักดันนวัตกรรมบล็อกเชนภายในประเทศ เจ้าหน้าที่รัฐบาลเน้นย้ำว่าการจัดตั้ง PCC สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของปากีสถานในการดิจิทัลเศรษฐกิจและเพิ่มความครอบคลุมด้านการเงิน เนื่องจากยังมีประชากรมากส่วนที่ไม่มีบัญชีธนาคารอย่างเป็นทางการ เทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซีสามารถเป็นทางเลือกทางการเงินใหม่ที่ทำให้การเข้าถึงบริการทางการเงิน การโอนเงินและสินเชื่อเป็นไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ สภาจะทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับนานาชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่านโยบายด้านคริปโตของปากีสถานเป็นไปตามแนวปฏิบัติระดับโลก การประสานงานระดับนานาชาตินี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงินและการฉ้อโกง พร้อมทั้งสนับสนุนการเติบโตที่ถูกต้องตามกฎหมายในอุตสาหกรรมคริปโต นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมในปากีสถานให้การยอมรับการก่อตั้งสภาคริปโตปากีสถาน โดยเน้นว่านโยบายที่ชัดเจนและสนับสนุนเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดคริปโต พวกเขาเชื่อว่าหากได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมด้วยกฎหมายและโครงสร้างพื้นฐาน ปากีสถานจะมีศักยภาพกลายเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมบล็อกเชนในภูมิภาคได้ โดยสรุป การก่อตั้งสภาคริปโตปากีสถานเป็นก้าวสำคัญในการก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศ โดยเน้นไปที่การกำกับดูแล ส่งเสริม และบูรณาการเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล สภานี้คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของภาคการเงินและเทคโนโลยีของปากีสถาน ขณะเดียวกันที่โลกหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลและการเงินแบบกระจายศูนย์อย่างแพร่หลาย ความมุ่งมั่นของปากีสถานต่อเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นสัญญาณว่าประเทศพร้อมที่จะเข้าร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลระดับโลกอย่างเต็มตัว
ในการเรียกร้องให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อเร่งพัฒนาสถาปัตยกรรมบล็อกเชน กลุ่มอุตสาหกรรม Web3 Harbour ร่วมกับบริษัทบัญชี PwC Hong Kong ได้เปิดตัว “แบบแผน Web3 ฮ่องกง” เมื่อวันจันทร์ ซึ่งต่อยอดจากโมเมนตัมล่าสุดของเมืองนี้ โดยเน้นย้ำถึง “ความโปร่งใส ความปลอดภัย และการเสริมพลังให้กับผู้ใช้งาน” ที่เกิดจากการกระจายอำนาจ แบบแผนนี้มีเป้าหมายที่จะนำเอา “ความสามารถพิเศษของ Web3” มาใช้ โดยพัฒนาปัจจัยสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ ทรัพยากรบุคคล โครงสร้างพื้นฐานทางตลาด มาตรฐาน กฎระเบียบ และการสนับสนุนทางด้านเงินทุนและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมุ่งเน้นด้านการเงินแบบเปิด การเงินการค้า ตลาดทุน การจัดการสินทรัพย์ และตลาดคาร์บอน รายงานนี้เป็นผลจากการร่วมมือของสมาชิก Web3 Harbour และผู้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมอื่น ๆ สำหรับประธาน Web3 Harbour คุณ Gary Liu ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Post กล่าวว่า ถึงแม้ว่าการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐให้มากขึ้นเป็นเป้าหมาย แต่แบบแผนนี้ยังเป็นแนวทางสำหรับความสำคัญของภาคเอกชนเป็นหลัก “นี่คือการวางแนวทางว่าภาคเอกชนจะโฟกัสในเรื่องอะไร เพื่อให้เทคโนโลยี Web3 และทรัพย์สินเสมือนหรือแบบกระจายอำนาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินในฮ่องกงอย่างแท้จริง” ลิว อธิบาย Stablecoins รักษามูลค่าให้คงที่โดยการอ้างอิงกับทรัสต์อาร์ติสต์ โดยทั่วไปจะสนับสนุนแบบหนึ่งต่อหนึ่งด้วยสกุลเงิน Fiat เช่น ดอลลาร์สหรัฐ
- 1