
Profound เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านความสามารถในการมองเห็นในระบบค้นหาโดยใช้ AI ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ได้ระดมทุนจำนวน 35 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุนรอบ Series B ซึ่งนำโดย Sequoia Capital พร้อมการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนเดิม การลงทุนครั้งสำคัญนี้จะเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายความพยายามด้านการขายให้กับองค์กร แพลตฟอร์มของ Profound ให้ข้อมูลเชิงลึกแบบครบถ้วนเกี่ยวกับการปรากฏตัวของแบรนด์และธุรกิจในเครื่องมือค้นหาและเครื่องมือให้คำตอบที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งตอบสนองความต้องการเพิ่มขึ้นในการควบคุมและเข้าใจผลลัพธ์การค้นหาที่สร้างโดย AI ในบริบทดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน เนื่องจาก AI ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่ข้อมูลถูกเข้าถึงออนไลน์ ธุรกิจจึงต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการค้นหาใหม่ เทคโนโลยีของ Profound เสนอโซลูชั่นที่มีค่า โดยช่วยให้บริษัทสามารถเฝ้าติดตาม จัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพความสามารถในการมองเห็นในสภาพแวดล้อมการค้นหาแบบขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงและการมีส่วนร่วมของลูกค้า การระดมทุนรอบ Series B นี้เป็นก้าวสำคัญในการเติบโตของ Profound สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อวิสัยทัศน์และศักยภาพในตลาดของบริษัทนี้ การมีส่วนร่วมของ Sequoia Capital ยังยืนยันถึงความสำคัญของความสามารถในการมองเห็นในระบบค้นหา AI และบทบาทที่น่าศรัทธาของ Profound ในอนาคต ด้วยทุนใหม่ Profound จะเร่งนวัตกรรม พัฒนาความสามารถของแพลตฟอร์ม และเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงาน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น บริษัทยังวางแผนที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับองค์กรใหญ่ ๆ เพื่อช่วยให้แบรนด์สำคัญ ๆ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมการค้นหา AI อย่างรวดเร็ว ผู้นำของ Profound กล่าวด้วยความตื่นเต้นเกี่ยวกับโอกาสในการใช้ทุนนี้เพื่อสร้างความเป็นผู้นำในสาขานี้ โดยระบุว่า “ภารกิจของเรา คือ การให้เครื่องมือแก่ธุรกิจเพื่อความสำเร็จในระบบนิเวศของการค้นหา AI การลงทุนนี้ช่วยให้เราสามารถเร่งนวัตกรรม ขยายการเข้าถึง และช่วยให้ลูกค้าคงไว้ซึ่งความได้เปรียบในการแข่งขันบนแพลตฟอร์มการค้นหาแบบ AI” เครื่องมือค้นหาและเครื่องมือให้คำตอบที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการค้นหาแบบดั้งเดิม โดยสร้างคำตอบแบบสังเคราะห์ ซึ่งสร้างความซับซ้อนใหม่ให้กับแบรนด์ Profound จัดการด้วยความโปร่งใสและข้อมูลเชิงลึกที่สามารถดำเนินการได้ ทำให้แบรนด์สามารถปรับแต่งกลยุทธ์เนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมรับรู้ถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของโซลูชันอย่าง Profound เนื่องจากธุรกิจต่าง ๆ พยายามรักษาความมองเห็นและความเกี่ยวข้องในระบบการค้นหา AI ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การระดมทุน 35 ล้านดอลลาร์นี้จะช่วยเสริมความสามารถของ Profound ในด้านนวัตกรรมและตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเทคโนโลยี AI พัฒนาขึ้น ความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการการปรากฏตัวในการค้นหา AI จะกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ Profound เป็นพันธมิตรสำคัญขององค์กรที่มีแนวคิดก้าวไกล ด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความต้องการในตลาด บริษัทนี้พร้อมที่จะเป็นผู้นำในเทคโนโลยีความสามารถในการมองเห็นในระบบค้นหา AI โดยคาดว่าจะมีการอัปเดตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ โดยรวม ความสำเร็จในการระดมทุนของ Profound เป็นเครื่องยืนยันถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI ในการกำหนดรูปแบบการค้นหาในดิจิทัลและความสัมพันธ์ของแบรนด์ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงยุคใหม่ของโอกาสและความท้าทายสำหรับธุรกิจทั่วโลก

เมตาได้เปิดตัวฟีเจอร์นวัตกรรมใหม่ชื่อ 'Vibes' ภายในแอปพลิเคชัน AI ของตน โดยมุ่งเน้นเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์และความสนุกสนานในชุมชนผ่านเนื้อหาวิดีโอที่สร้างด้วย AI ขณะนี้อยู่ในช่วงพรีวิวเบื้องต้น Vibes มอบฟีดวิดีโอส่วนตัวให้กับผู้ใช้ ซึ่งใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างเนื้อหาวิดีโอที่น่าตื่นเต้นและปรับให้เหมาะสมกับรสนิยมและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละบุคคล ฟีเจอร์นี้เชิญชวนให้ผู้ใช้เข้าร่วมในสภาพแวดล้อมวิดีโอที่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหว ซึ่งไม่เพียงแต่ดูวิดีโอที่สร้างด้วย AI แต่ยังสามารถสร้างและปรับแต่งเป remix วิดีโอได้ กระบวนการสร้างนั้นใช้งานง่ายและปรับแต่งได้สูง: ผู้ใช้สามารถเริ่มโปรเจกต์จากศูนย์โดยใช้แนวคิดของตนเอง หรือปรับเปลี่ยนวิดีโอ AI ที่มีอยู่แล้ว ความยืดหยุ่นนี้สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ในหลายรูปแบบ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนแอนิเมชัน สลับภาพ หรือเติมเสียงเพลงให้วิดีโอของตนเอง ทำให้แต่ละชิ้นงานเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง การแชร์และการมีส่วนร่วมในชุมชนเป็นคุณสมบัติสำคัญของ Vibes หลังจากสร้างหรือเปลี่ยนแปลงวิดีโอแล้ว ผู้ใช้สามารถแชร์ลงในฟีด Vibes เพื่อเสริมความมองเห็นและการโต้ตอบในชุมชน นอกจากนี้ ฟีเจอร์นี้ยังมีตัวเลือกการแชร์ส่วนตัว เช่น การส่งวิดีโอผ่านข้อความโดยตรง Vibes ยังสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง Instagram และ Facebook เพื่อให้ผู้ใช้สามารถโพสต์วิดีโอของตนไปยัง Stories หรือ Reels ได้ การเชื่อมโยงนี้ใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศที่กว้างของ Meta ซึ่งช่วยให้การเข้าถึงผู้ติดตามและเพื่อนๆ บนหลายช่องทางเป็นไปอย่างง่ายดาย การเปิดตัว Vibes เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Meta ในการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มโซเชียล เพื่อเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้การสร้างและแก้ไขวิดีโอด้วย AI เป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายดาย Meta จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงออกและโต้ตอบได้อย่างมีชีวิตชีวาและสร้างสรรค์ ความคิดเห็นเบื้องต้นบ่งบอกว่าผู้ใช้ชื่นชอบความง่ายในการสร้างเนื้อหาใหม่และเสรีภาพในการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนวิดีโอ ฟีเจอร์เช่นการเพิ่มเพลง การปรับแต่งสไตล์แอนิเมชัน และการแทนที่ภาพ ทำให้การสร้างเนื้อหาเป็นเรื่องสนุกและเข้าถึงได้ง่าย แม้แต่คนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการตัดต่อวิดีโอก็สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ การผนวกรวม Vibes กับ Instagram และ Facebook ทำให้ผู้ใช้สามารถขยายการมองเห็นเนื้อหาของตนได้มากขึ้น การรองรับการทำงานข้ามแพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่กระตุ้นให้เกิดการโต้ตอบของผู้ใช้ แต่ยังส่งเสริมการแบ่งปันเนื้อหารูปแบบต่างๆ ซึ่งเสริมสร้างประสบการณ์โดยรวมในระบบนิเวศโซเชียลของ Meta ให้เต็มไปด้วยความหลากหลายและน่าตื่นเต้น เมื่อ Vibes พัฒนาต่อเนื่องจากช่วงพรีวิวเริ่มต้น คาดว่า Meta จะเปิดตัวเครื่องมือแก้ไขวิดีโอขั้นสูง ฟีเจอร์ AI ที่ปรับปรุงแล้ว และฟังก์ชันด้านสังคมที่ลึกซึ้งมากขึ้น เพื่อสร้างความผูกพันและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ให้มากขึ้น การนำ AI เข้ามาใช้ในเนื้อหาแบบสร้างสรรค์นี้สอดคล้องกับแนวโน้มดิจิทัลที่ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างและปรับแต่งเนื้อหา สรุปแล้ว Vibes ของ Meta เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในด้านการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมดิจิทัล โดยผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับการแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างชุมชนที่มีชีวิตชีวาและมีการโต้ตอบอย่างเต็มที่ แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถทำให้งานซับซ้อนอย่างการตัดต่อวิดีโอง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็สร้างการเชื่อมต่อและสนับสนุนประสบการณ์สร้างสรรค์ร่วมกันในหลายๆ แพลตฟอร์มโซเชียล

บริษัท Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของ Amazon

รายงานล่าสุดของ IDC ซึ่งได้รับการจัดทำโดย Sage ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบอย่างลึกซึ้งของการนำ AI มาใช้ในกลุ่มพันธมิตรด้านไอที โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ทำผลงานได้ดีในอุตสาหกรรม การสำรวจผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์กว่า 2,000 รายทั่วโลก วิเคราะห์การเติบโตของรายได้และกลยุทธ์ทางธุรกิจในช่วงสองปีที่ผ่านมา พบว่า พันธมิตรที่นำ AI เข้าสู่บริการของตนและเน้นไปที่โซลูชันเฉพาะทางด้านอุตสาหกรรมและแนวตั้ง จะประสบกับการเติบโตที่โดดเด่นและได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน พันธมิตรด้านไอทีที่มีผลงานสูง—คือกลุ่มที่มีการเติบโตของรายได้อย่างน้อย 20% ในช่วงสองปี—โดดเด่นด้วยการบูรณาการ AI เป็นส่วนสำคัญของการสร้างความผูกพันกับลูกค้าและการให้บริการโดยกลยุทธ์นี้ช่วยให้สามารถปรับปรุงผลลัพธ์ของลูกค้า สร้างความเชื่อมั่น และพัฒนารูปแบบการดำเนินงานที่สามารถขยายได้เน้นเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะทาง สิ่งที่น่าสนใจคือ 87% ของกลุ่มผลงานสูงนี้ใช้งานหรือขายต่อผลิตภัณฑ์ที่ฝัง AI อยู่ ในขณะที่กลุ่มทั่วไปมีอยู่ประมาณ 70% ซึ่งแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ชัดเจนระหว่างการนำ AI มาใช้กับการเจริญเติบโต ตลาดในสหราชอาณาจักรเป็นตัวอย่างที่ดี โดยกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทใน UK รายงานว่ามีคุณภาพการให้บริการและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และ 70% ระบุว่ามีประโยชน์ที่จับต้องได้จากนวัตกรรม AI ที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้า การเชี่ยวชาญในระดับไมโคร-แนวตั้งหรือกลุ่มตลาดเฉพาะทางยังเป็นแรงขับเคลื่อนความสำเร็จ เพราะ 70% ของกลุ่มผลงานสูงปรับแต่งโซลูชันให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมเฉพาะ ทำให้สามารถนำไปใช้ได้รวดเร็วและต้นทุนต่ำ วิธีการที่เน้นเฉพาะนี้ช่วยเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าและความมั่นคงของรายได้ ซึ่งเป็นจุดแตกต่างที่สำคัญในตลาดช่องทางการแข่งขันสูง นอกจากเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญแล้ว ชื่อเสียงและความสอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายซอฟต์แวร์ชั้นนำก็เป็นสิ่งสำคัญ พันธมิตรที่ประสบความสำเร็จใช้ความร่วมมือกับผู้ขายอย่างแข็งแกร่งเพื่อเข้าถึงโซลูชันขั้นสูงและข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยรักษาความได้เปรียบและขยายตลาด ความหวังของพันธมิตรที่ทำผลงานได้ดียังคงแรงกล้า โดย 84% ตั้งเป้าหมายในการรักษาอัตราการเติบโตอย่างน้อย 20% ต่อไป แนวโน้มเชิงบวกนี้สะท้อนให้เห็นภาพของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การมุ่งเน้นลูกค้า และความคล่องแคล่วในการปรับตัวตามความต้องการของตลาดโดยรวม รายงานนี้แสดงให้เห็นว่าภาคส่วนช่องทางด้านไอทีกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลง ผู้นำในอุตสาหกรรมมองว่า AI เป็นฐานในการพัฒนาผลลัพธ์และประสิทธิภาพของลูกค้า ในขณะเดียวกัน การเจาะลึกในกลุ่มอุตสาหกรรมและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ก็ช่วยให้บริการที่มีความแตกต่างและความเกี่ยวข้องมากขึ้น การผสมผสานระหว่างการนำ AI เข้าสู่กระบวนการ การเชี่ยวชาญในกลุ่มอุตสาหกรรม และความสัมพันธ์กับผู้ขายกำลังสร้างแนวทางใหม่ของตลาดช่องทางในอนาคต ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับผู้จำหน่ายและผู้ให้บริการที่ต้องการเติบโตในยุคของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว

AI SEO เป็นความก้าวหน้าสำคัญในด้านการตลาดดิจิทัลโดยการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงวิธีการทำ SEO แบบดั้งเดิมในขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เครื่องมือค้นหาแบบ AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้ใช้ค้นหาและได้รับข้อมูลออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงนี้จึงต้องการการคิดใหม่อย่างรอบคอบเกี่ยวกับการบริหารความมองเห็นออนไลน์ของแบรนด์และกลยุทธ์การปรับแต่งให้ติดอันดับบนเสิร์ชเอนจิน โดยปกติแล้ว SEO เน้นไปที่กลยุทธ์ตามคีย์เวิร์ด โดยมุ่งหวังเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับต้น ๆ ของผลลัพธ์บนหน้าเสิร์ชเอนจิน (SERPs) ด้วยการจับกลุ่มคำค้นหาที่ผู้ใช้ป้อนบ่อย ๆ แต่ในปัจจุบัน การเปิดตัวของเครื่องมือค้นหาแบบ AI กำลังค่อย ๆ แทนที่แบบแผนดั้งเดิมนี้ด้วยแนวทางที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างคำตอบโดยตรง ระบบ AI เหล่านี้ประมวลข้อมูลจำนวนมากเพื่อส่งคำตอบที่กระชับและตรงประเด็นโดยตรง โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้พยายามคลิกลิงก์หรือค้นหาจากหลายหน้า เพื่อที่จะนำทางในภูมิทัศน์นี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ แบรนด์จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์การปรับแต่งแบบหลายชั้น ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับปรุง SEO แบบดั้งเดิม ไปจนถึง Answer Engine Optimization (AEO) และ Generative Engine Optimization (GEO) AEO มุ่งเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างและการทำเครื่องหมายเนื้อหาอย่างเหมาะสมเพื่อให้เครื่องตอบคำถาม AI เลือกใช้เป็นคำตอบที่ดีที่สุด วิธีการเหล่านี้รวมถึงการใช้ข้อมูลในโครงสร้าง (structured data), schema markup และความเข้าใจในเจตนาของผู้ใช้เพื่อเพิ่มโอกาสเนื้อหาของคุณจะปรากฏเป็นคำตอบโดยตรง ในขณะเดียวกัน Generative Engine Optimization เป็นสาขาใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเน้นไปที่การปรับแต่งเนื้อหาเพื่อให้เหมาะสมกับระบบ AI ที่สร้างคำตอบหรือเนื้อหาเฉพาะในตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ใช้ GEO ต้องผลิตเนื้อหาคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ที่โมเดลเชิงสร้างสามารถอ้างอิงหรือบูรณาการได้ เพื่อให้ข้อความของแบรนด์ยังคงถูกต้องและมีอิทธิพลในผลลัพธ์ที่ AI สร้างขึ้น การผสมผสานกลยุทธ์เหล่านี้เข้าเป็นแนวทาง AI SEO แบบบูรณาการ ช่วยให้แบรนด์สามารถรักษาและแม้แต่ยกระดับการปรากฏตัวบนโลกออนไลน์ได้ ถึงแม้ว่าความสำคัญของการจัดอันดับคีย์เวิร์ดดั้งเดิมจะลดน้อยลงไปแล้ว ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความชำนาญด้านเทคนิค SEO การพัฒนาเนื้อหา การวิเคราะห์ข้อมูล และความเข้าใจเชิงรุกในเทคโนโลยี AI และศักยภาพของมัน นอกจากนี้ เมื่อ NLP (การประมวลผลภาษาธรรมชาติ) และความเข้าใจของ AI พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ความสำคัญของบริบท เจตนาของผู้ใช้ และคุณภาพเนื้อหาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แบรนด์ที่ลงทุนในการเข้าใจเทคนิคของ AI และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องจะอยู่ในจุดที่นำหน้าในการสร้างนวัตกรรมด้านการตลาดดิจิทัล แท้จริงแล้ว AI SEO ไม่ใช่แค่การปรับตัวตามเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นโอกาสให้แบรนด์ได้คิดใหม่เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในโลกดิจิทัล ผ่านการใช้เครื่องมือและวิธีการที่ขับเคลื่อนด้วย AI ธุรกิจสามารถนำเสนอเนื้อหาที่แม่นยำและมุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนไปของเสิร์ชเอนจินและผู้ใช้ในปัจจุบัน สำหรับผู้ที่สนใจสำรวจในเชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อการเปลี่ยนแปลงนี้ แหล่งข้อมูลอย่างเช่นบทความในวิกิพีเดียเกี่ยวกับ AI SEO ก็สามารถให้ข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์เชิงกลยุทธ์ รวมถึงตัวอย่างปฏิบัติได้ การเชี่ยวชาญและการประยุกต์ใช้ AI SEO จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการเติบโตในสนามของการค้นหา ที่กำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ควบคุมมากขึ้นเรื่อย ๆ

CoreWeave ได้ประกาศข้อตกลงสำคัญมูลค่า 14

เมต้ากับโอเพนเอไอ สององค์กรชั้นนำด้านปัญญาประดิษฐ์และโซเชียลมีเดีย กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อบูรณาการเทคโนโลยีเอไอกับแพลตฟอร์มวิดีโอสังคม ซึ่งเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่เกินกว่าระบบแชทบอทแบบเดิม ทั้งสองบริษัทกำลังพัฒนานวัตกรรมที่ผสมผสานการสร้างวิดีโอด้วยเอไอเข้าไว้กับฟีเจอร์โซเชียลแบบโต้ตอบ นำสู่ยุคใหม่ของการมีส่วนร่วมของผู้ใช้และการสร้างเนื้อหา โอเพนเอไอเพิ่งเปิดตัว Sora แอปพลิเคชัน iOS ที่นวัตกรรมใหม่ รวมฟังก์ชันวิดีโอที่สร้างด้วยเอไอและโซเชียลมีเดียในตัว ปัจจุบันอยู่ในช่วงเชิญเท่านั้น Sora ช่วยให้ผู้ใช้สร้างวิดีโอด้วยเอไอ แชร์ในฟีดโซเชียล ค้นหาเนื้อหาจากผู้อื่น และรีมิกซ์วิดีโอเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการโต้ตอบ ฟีเจอร์เด่นอย่าง "คามีโอ" ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแทรกตนเองหรือเพื่อนเข้าไปในวิดีโออัตโนมัติ เรียนรู้เนื้อหาเป็นแบบเฉพาะตัวในวิธีใหม่ที่ไม่เคยเห็นบนแพลตฟอร์มวิดีโอแบบเดิม โอเพนเอไอเน้นว่า Sora มุ่งเน้นความพึงพอใจของผู้ใช้ในระยะยาวมากกว่าการวัดผลด้วยตัวชี้วัด engagement ชั่วคราว โดยมีเป้าหมายที่จะนิยามใหม่แนวทางการบูรณาการเอไออย่างรับผิดชอบและสร้างสรรค์ในโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้อย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน เมต้ากำลังนำเอไอไปใช้ในโมเดลธุรกิจที่เน้นการโฆษณาอย่างเต็มที่ กลยุทธ์นี้ใช้เอไอเพื่อเสริมสร้างความน่าดึงดูดใจและการมีส่วนร่วม ซึ่งอาจเพิ่มการโต้ตอบ แต่ก็เกิดความกังวลด้านจริยธรรมเกี่ยวกับการค้าขายและการตลาด เมต้าทดลองบรรจุฟังก์ชันเอไอลงในบริการวิดีโอของตนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดและเติบโตของรายได้ แม้ว่าแนวทางของโอเพนเอไอจะเน้นที่ความใส่ใจผู้ใช้เป็นหลัก การสร้างรายได้ก็อาจกลายเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับต้นทุนคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ของการผลิตวิดีโอด้วยเอไอที่สร้างขึ้น ชื่อเสียงของฟีเจอร์ในแอป Sora เช่น วิดีโอที่สร้างด้วยเอไอโดยมีซีอีโอของโอเพนเอไออย่างแซม อัลทแมน เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเอไอสามารถเสริมสร้างการสร้างเนื้อหาและผสมผสานความคิดสร้างสรรค์แบบเอไอกับเรื่องราวที่แสดงลักษณะบุคลิกภาพส่วนตัวได้อย่างไร การพัฒนาคู่ขนานเช่นนี้ของเมต้าและโอเพนเอไอ ได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมและผู้ใช้มาก ร่องรอยของแนวโน้มนี้ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มแชทบอทแบบข้อความ มาเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่ขับเคลื่อนด้วยเอไออย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าการโต้ตอบด้านเนื้อหาออนไลน์และวิธีที่บริษัทใช้เอไอเพื่อธุรกิจและความสร้างสรรค์ เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้เติบโตขึ้น ความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว อิทธิพลของผู้ใช้งาน ความถูกต้องของเนื้อหา และอิทธิพลของเอไอต่อพลวัตทางสังคม ก็จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การบูรณาการวิดีโอที่สร้างด้วยเอไอเข้าไปในโซเชียลมีเดีย เปิดเสรีภาพใหม่ในการแสดงความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมต่อ แต่ก็ยังมีความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความไว้วางใจ การบิดเบือนข้อมูล และจริยธรรมในการใช้เอไอ โดยสรุปแล้ว การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของเมต้าและโอเพนเอไอเป็นช่วงเวลาสำคัญของเอไอในวงการโซเชียลมีเดีย โอเพนเอไอได้เป็นผู้นำในการผสมผสานวิดีโอและการโต้ตอบแบบสังคมด้วยเอไอที่มุ่งเน้นความยั่งยืนของประสบการณ์ผู้ใช้ ในขณะที่เมต้าเสริมสร้างโมเดลการมีส่วนร่วมด้วยเอไอ ความร่วมมือเหล่านี้ชี้ให้เห็นอนาคตที่วิดีโอที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอจะกลายเป็นส่วนสำคัญของการมีปฏิสัมพันธ์ในโลกออนไลน์ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงทั้งประสบการณ์ของผู้ใช้และโมเดลธุรกิจอย่างลึกซึ้ง
- 1